จีนกับย่างก้าวที่ระมัดระวัง รักษาสมดุลรัสเซีย-ตะวันตก

จีนระวังสร้างสมดุลรัสเซีย-ตะวันตก
Sputnik/Sergey Bobylev/Pool via REUTERS

“สี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีจีน วางตัวอย่างระมัดระวังในประเด็นการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ระหว่างการเจรจากับ “วลาดิมีร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย เพื่อสร้างสมดุล ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับจีน

วันที่ 16 กันยายน 2565 แชนเนลนิวส์เอเชียรายงานว่า ในรายการเอเชียเฟิร์สของแชนเนลนิวส์เอเชียเมื่อวันศุกร์ หลังการหารือของผู้นำทั้งสอง “อาลี วายน์” นักวิเคราะห์การเมืองให้สัมภาษณ์ว่า “จีนจะรักษาสมดุลในการสวมกอดนั้นได้อย่างไร ในเมื่อการสวมกอดอย่างลึกซึ้งนั้นกำลังบ่อนทำลายความสัมพันธ์ของจีนกับตะวันตก มันไม่ง่ายเลยที่จีนจะทำได้”

วายน์ ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์อาวุโสจากยูเรเซีย กล่าวถึงแนวปฏิบัติทางภูมิรัฐศาสตร์ด้วยว่า จีนตระหนักดีว่า การสวมกอดรัสเซียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อชดเชยแรงกดดันจากระบอบประชาธิปไตยอุตสาหกรรมก้าวหน้า แต่ในระยะยาว ความสัมพันธ์กับชาติตะวันตกจะมีผลสืบเนื่องมากกว่าความสัมพันธ์กับรัสเซีย

“ข้อเท็จจริงที่ปูตินยอมรับต่อสาธารณชนในการประชุมที่มีคนจับตาทั่วโลกคือ สีมีคำถามและความกังวลเกี่ยวกับสงคราม และได้ส่งสัญญาณสำคัญเกี่ยวกับความกังวลของจีนเกี่ยวกับผลลัพธ์จากสงครามในระยะยาว”

ปูตินสร้างความประหลาดใจให้กับนักวิเคราะห์ เพราะระหว่างการกล่าวเปิดงาน การประชุมนอกรอบการประชุมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ในอุซเบกิสถาน เขายอมรับว่าจีนมีคำถามและความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน

วายน์ ซึ่งทำงานด้านความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีน กล่าวว่า อารมณ์ของปูตินสงบลงบ้างแล้ว เมื่อเทียบกับเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่จีนและรัสเซียประกาศความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์แบบไร้ขีดจำกัด เพื่อตอบโต้อิทธิพลของสหรัฐ

“ผมคิดว่าสิ่งที่เรากำลังได้เห็นคือความสัมพันธ์ที่มีขีดจำกัดจริง ๆ” วายน์กล่าว

การรักษาสมดุล

ดร.เบนจามิน โฮ ผู้ช่วยศาสตราจารย์โครงการจีนศึกษา สถาบันการศึกษาระหว่างประเทศ เอส ราชารัตนัม (S. Rajaratnam School of International Studies: RSIS) กล่าวว่า ถึงกระนั้น จีนก็ไม่ต้องการถูกรัสเซียมองว่าไม่ให้การสนับสนุน แม้ว่าจีนจะพยายามไม่สร้างปัญหากับตะวันตกมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ตาม

“ผมเลยคิดว่าปัญหาต่าง ๆ เช่น ยูเครน, ไต้หวัน และการขยายอิทธิพลของนาโต ส่วนใหญ่จะเป็นภาพรวมในวงกว้าง และไม่ได้มีรายละเอียดเฉพาะเจาะจง ผมไม่คิดว่าสีหรือปูตินจะเผยไพ่ทั้งหมดของพวกเขา” ดร.โฮ กล่าว

เขากล่าวด้วยว่า จีนมีข้อความสำคัญ 2 ประการ ที่จะส่งไปยังรัสเซีย ตลอดการประชุมสุดยอดครั้งนี้

“ประการแรก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในยูเครนหรือเกิดขึ้นกับยูเครน ถือเป็นความรับผิดชอบของรัสเซีย และควรถูกจำกัดวงไว้ที่รัสเซีย ไม่กระจายต่อมายังจีน” ดร.โฮกล่าวและว่า “ประการที่สองคือ จีนมองรัสเซียเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ในการสร้างระเบียบโลก ซึ่งน่าจะเป็นระเบียบมากกว่าสิ่งที่เราเห็นจากระเบียบเสรีนิยมที่นำโดยสหรัฐ”

จีนหลีกเลี่ยงการเรียกปฏิบัติการของรัสเซียในยูเครนว่า “การบุกรุก” ในทางกลับกัน รัสเซียยกย่องจีนสำหรับจุดยืนที่ “สมดุล” ในความขัดแย้งครั้งนี้

วายน์กล่าวว่า จีนกำลังจัดการสิ่งต่าง ๆ ด้วยความระมัดระวัง ทั้งความสัมพันธ์กับรัสเซีย, ความสัมพันธ์กับตะวันตก ตลอดจนคำมั่นที่จะรักษาอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน

“ความยากลำบากในการดำเนินนโยบายของจีนคือ การจะรักษาวิถีทั้งสามไว้พร้อมกันนั้น เป็นเรื่องยากมาก” เวนกล่าว

นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า สงครามที่ยืดเยื้อในยูเครน ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดการหยุดชะงักของตลาดพลังงานและอาหาร ไม่ได้ทำให้ผลประโยชน์ของจีนงอกเงย

“ผมคิดว่าสัญญาณส่วนใหญ่คือจีน อย่างน้อยในที่สาธารณะ ไม่ต้องการประณามรัสเซีย แต่โดยส่วนตัวแล้ว เราจินตนาการได้เลยว่า จีนกำลังพูดกับรัสเซียว่า ดูสิ สงครามครั้งนี้กำลังทำร้ายคุณ มันทำร้ายเรา มันทำลายความสัมพันธ์ของเรา แล้วมาดูกันว่าเราจะสามารถผลักดันให้มีการแก้ปัญหาทางการทูตได้หรือไม่” วายน์ กล่าว

ความผูกพันจากการร่วมทุกข์

วายน์กล่าวว่า จีนและรัสเซียมีความผูกพันกันด้วยความคับข้องใจที่มีร่วมกันต่อสหรัฐ และในวงกว้างมากขึ้นคือต่อตะวันตก รวมถึงความคับข้องใจต่อการจัดระบบระหว่างประเทศ

ดร.โฮ เรียกสหรัฐว่า “กาว” ที่ทำให้จีนกับรัสเซียเชื่อมต่อกัน เนื่องจากทั้งสองประเทศมองว่าสหรัฐเข้าแทรกแซงกิจการของตน ผ่านนาโต ทั้งในยุโรปและอินโดแปซิฟิกในเอเชีย

“อีกนัยหนึ่ง ศัตรูร่วมที่ทั้งสองมีคือสหรัฐ และสหรัฐก็เป็นกาวที่ทำให้จีนกับรัสเซียเข้าหากัน เพราะหากทั้งคู่ไม่เกาะติดกันไว้ พวกเขาจะสูญเสียอิทธิพลทางการทูตในการกำหนดกฎเกณฑ์และการตัดสินใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในระดับสากล” ดร.โฮกล่าวและว่า

แง่มุมที่สำคัญของสีในการประชุมร่วมกับปูตินคือการที่จีนและรัสเซียอาจถูกมองเป็น “ระเบียบโลกทางเลือก” ซึ่งถ่วงดุลอำนาจการครอบงำโลกของตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐ

“ชาวจีนต้องการสื่อข้อความว่า รัสเซียเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่กว้างขึ้นของระเบียบโลกทางเลือกสำหรับตะวันตก ซึ่งจีนมองตัวเองเป็นผู้ถือธงของโลกภายหลังการระบาดใหญ่ กฎเกณฑ์และการกำหนดค่าของสหรัฐและตะวันตกไม่ควรกำหนดระเบียบระหว่างประเทศ แต่ควรกำหนดโดยประเทศอื่นนอกตะวันตก” ดร.โฮ กล่าว

ช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายของอินโดแปซิฟิก

วายน์กล่าวอีกว่า การแย่งชิงอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้นทำให้เกิดความแออัดในอินโดแปซิฟิก สังเกตได้ว่าภูมิภาคนี้มีกิจกรรมทางเรือที่เพิ่มสูงขึ้น และประเทศต่าง ๆ ได้เพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศ

รัสเซียประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ได้เข้าร่วมกับกองทัพเรือของจีนในการลาดตระเวนในมหาสมุทรแปซิฟิก

วายน์กล่าวว่า มหาอำนาจในภูมิภาคนี้ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันมากขึ้นระหว่างจีนกับรัสเซีย ที่ต้องการรักษาเสถียรภาพในอินโดแปซิฟิก โดยภูมิภาคนี้มีความขัดแย้งทางทหารมากขึ้น

“ผมคิดว่าเราจะเห็นกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของภาคี The Quad (Quadrilateral Security Dialogue) เราจะเห็นกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องระหว่างสหรัฐที่ทำงานร่วมกับพันธมิตรในภูมิภาคแห่งนี้ ดังนั้นนี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากและวุ่นวายในภูมิภาคนี้” เขากล่าว