ผู้นำทรงอิทธิพลของจีน สี จิ้นผิง ปรากฏตัวครั้งแรก มีภาพออกทีวี หลังหายหน้าไปหลายวันจนเกิดข่าวลือสะพัด
วันที่ 27 กันยายน 2565 สำนักข่าว เอพี รายงานว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ปรากฏตัวออกงานครั้งแรกทางโทรทัศน์แล้ว ที่กรุงปักกิ่ง นับจากกลับจากการประชุมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ที่อุซเบกิสถาน วันที่ 15-16 กันยายน ซึ่งเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกของนายสี นับจากเกิดสถานการณ์โรคระบาดโควิด
- กรมอุตุฯเตือน 6-11 พ.ค.นี้ ฝนตกหนักหลายพื้นที่ รวมกทม.และปริมณฑล
- ธ.ก.ส. เผย สินเชื่อดอกเบี้ยล้านละร้อย เหลือวงเงินกู้อีก 1.5 หมื่นล้าน
- ร้อนทะลุ-โลกเดือด “เอลนีโญ” ถึง “ลานีญา” ถล่มประเทศไทย
ช่วงที่นายสีหายหน้าไปจากสาธารณชนตั้งแต่กลับจากทริปดังกล่าว เกิดข่าวลือต่าง ๆ นานา กระทั่งล่าสุด วันอังคารที่ 27 ก.ย. นายสีออกงานครั้งแรก เดินชมนิทรรศการ “ก้าวไปข้างหน้าสู่ยุคใหม่” มีเนื้อหารณรงค์อุดมการณ์สังคมนิยม ภายในอาคารเป่ยจิง เอ็กซิบิชัน ฮอลล์ กรุงปักกิ่ง โดยมีนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรี และบุคคลในกลุ่มผู้นำคนอื่น ๆ ร่วมงานด้วย
ทั้งนี้ ตามกฎระเบียบควบคุมโรคของจีน นายสีต้องกักตัวเองนานหนึ่งสัปดาห์ หลังจากกลับมาจากต่างประเทศ
ความที่ระบบการเมืองของจีนไม่เปิดเผยโปร่งใส จึงทำให้เกิดข่าวลือเรื่องการต่อสู้แย่งชิงอำนาจทางการเมืองบ่อยครั้ง ไปจนถึงลือว่ามีความพยายามที่จะก่อรัฐประหาร แม้ว่าธรรมชาติของรัฐที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดคอยสอดส่องประชาชน มักปราบปรามผู้เป็นปรปักษ์อย่างไม่ปรานี
สำหรับนายสี เป็นที่ทราบกันว่าเป็นผู้นำที่ทรงพลังที่สุดในหลายสิบปีมานี้จนไม่มีผู้กล้าท้าทาย นายสีเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ลบทิ้งข้อจำกัดที่ระบุวาระการเป็นผู้นำออกไป ทำให้เขาเป็นผู้นำไปได้ตลอดชีวิตตามปรารถนา
อย่างไรก็ตาม จังหวะที่นายสีไปออกงานใด ๆ หลังจากกลับจากการประชุม และก่อนหน้าการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ ที่จัดทุก 5 ปี ยิ่งทำให้ข่าวสะพัดมากยิ่งขึ้น ขณะที่นายสีจะรับตำแหน่งผู้นำพรรคสมัย 3 ในการประชุมที่จะเริ่มต้นวันที่ 16 ต.ค.นี้
นายแคร์รี บราวน์ นักวิชาการจีนศึกษา และผู้อำนวยการสถาบันหลิว ไชน่า ที่คิงส์ คอลเลจ ลอนดอน กล่าวว่า มีเรื่องที่ต้องอ่านให้ทะลุมากไปกว่าการที่นายสีหายหน้าไปช่วงสั้น ๆ
“ผมเดาว่า ถ้ามีความไม่พอใจความเป็นผู้นำของสี จิ้นผิง หยั่งลึกในกลุ่มอีลิท อย่างน้อยเราน่าจะได้เห็นหลักฐานอะไรบ้าง แต่ผมคิดว่าเราไม่ได้เห็นหลักฐานรองรับมากนัก” นายบราวน์กล่าว
นักวิชาการท่านนี้มองว่า ข่าวลือเรื่องการรัฐประหารและแย่งชิงอำนาจระหว่างคู่ปรปักษ์ไม่ใช่เรื่องแปลกในช่วงวาระทางการเมืองล่อแหลม แต่สำหรับกองทัพปลดปล่อยประชาชน สายการทหารของพรรคคอมมิวนิสต์ อยู่ในระเบียบวินัย ตามหลักการปราบปรามคอร์รัปชั่น
โดยเนื้อแท้แล้ว พรรคอาจมีความเสี่ยงเรื่องไม่พอใจกัน แต่การที่บุคคลใด หรือกลุ่มใดจะลุกขึ้นมาทำอะไรแรง ๆ จะถือว่าอยู่ในช่วงหนักมาก ถ้าต้องชนเกราะที่สร้างขึ้นล้อมรอบตัวนายสีเกือบทั้งหมด
“ผมว่า ความคิดที่อยากให้เกิด (ตามข่าวลือ) น่าจะอยู่ในฮ่องกงและที่อื่น ๆ แต่ผมไม่คิดว่าจะเชื่อถือได้มากนัก” นายบราวน์กล่าว
…..