รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มยูเครน ประชาชน 10 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ เซเลนสกีเผย

รัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มยูเครน ประชาชน 10 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ เซเลนสกีเผย
REUTERS/Valentyn Ogirenko

“โวโลดีมีร์ เซเลนสกี” ประธานาธิบดียูเครน เผยว่า การโจมตีด้วยขีปนาวุธระลอกใหม่ของรัสเซีย ทำให้ชาวยูเครน 10 ล้านคนต้องอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ไอริชไทม์สรายงานว่า การโจมตีของรัสเซียครั้งล่าสุดได้ทำลายโครงข่ายด้านพลังงานของยูเครน และทำให้ผู้คนนับล้านตกอยู่ในความมืดเมื่อฤดูหนาวมาเยือนและอุณหภูมิลดลง และหลายครั้งที่เขื่อนกั้นน้ำได้สร้างความยุ่งยากในการจ่ายไฟฟ้าและประปาทั่วประเทศยูเครน ตามรายงานของเอเอฟพี

ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีในหลายเมืองของยูเครนรายงานว่า การโจมตีครั้งล่าสุดเกิดขึ้นพร้อมกับหิมะแรกของฤดูกาล หลังจากเจ้าหน้าที่ในกรุงเคียฟเตือนถึงความยากลำบากที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

“ปัจจุบันชาวยูเครนมากกว่า 10 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้” เซเลนสกีกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า พื้นที่ต่าง ๆ ของโอเดสซา วินนึตเซีย ซูมี และเคียฟ ได้รับผลกระทบมากที่สุด

เขาเผยด้วยว่า เจ้าหน้าที่ในบางพื้นที่ได้สั่งปิดไฟฉุกเฉิน

หน่วยงานของสหประชาชาติระบุว่า วิกฤตด้านมนุษยธรรมที่ร้ายแรงกำลังคืบคลานเข้ามา ผู้คนหลายล้านคนต้องเผชิญกับการตัดไฟอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากฤดูหนาวที่หนาวเหน็บและยาวนานของยูเครน

หิมะแรกของฤดูหนาวได้ตกลงมาที่กรุงเคียฟ ในขณะที่ทางการยืนยันว่าพวกเขากำลังทำงานเพื่อทำให้ไฟฟ้าทั่วประเทศกลับมาใช้งานได้ หลังจากเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียได้ดำเนินการสิ่งที่ยูเครนเรียกว่า การทิ้งระเบิดครั้งใหญ่สุดต่อโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน

การโจมตีโครงข่ายไฟฟ้าของยูเครนเกิดขึ้นหลังรัสเซียเริ่มเผชิญความพ่ายแพ้ในสงคราม และการถอนกำลังออกจากภูมิภาคแคร์ซอน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

นอกจากนี้ ภูมิภาคโดเนตสก์ที่เคยผ่านการสู้รบอย่างหนักหน่วงที่สุดในสงครามกองกำลังรัสเซีย

กองทัพยูเครนเผยว่า กองกำลังรัสเซียยิงปืนใหญ่ใส่เมืองบัคมุทและโซเลดาร์ที่อยู่ใกล้เคียง

การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในโอเดสซาและดนิโปรได้รับการยืนยันจากฝ่ายบริหารของประธานาธิบดียูเครน และเจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาค เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย ในภูมิภาคโอเดสซา และอีก 14 รายที่เมืองดนีโปร

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 2 รายจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธในชั่วข้ามคืน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองซาโปริซเซีย

ขณะที่อีก 3 คน ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีที่เมืองคาร์คิฟ

นอกจากนี้ยังมีรายงานการพบสถานที่ฝังศพขนาดใหญ่ในพื้นที่ที่เคยถูกรัสเซียยึดครองก่อนหน้านี้ บางแห่งพบศพพลเรือนที่มีร่องรอยถูกทรมานด้วย