พูดเหมือนทนไม่ไหวแล้ว ประธานฟีฟ่า แถลงฟาดเดือดเสียงวิจารณ์ชาติตะวันตกต่อกาตาร์ สองมาตรฐาน
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ก่อนฟุตบอลโลกเปิดฉากที่ประเทศกาตาร์ นายจิอันนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า กล่าวปกป้องกาตาร์ เจ้าภาพจัดการแข่งขันชาติแรกของแดนอาหรับ กรณีถูกวิพากษ์วิจารณ์ และถูกต่อต้านด้วยประเด็นละเมิดสิทธิมนุษยชน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
“เราถูกสอนบทเรียนมากมายจากชาติยุโรป จากโลกตะวันตก เป็นสิ่งที่เราชาวยุโรปทำมาตลอด 3,000 ปี และเราก็ควรขอโทษในสิ่งที่ทำไปอีก 3,000 ปีข้างหน้าก่อนจะเริ่มไปสั่งสอนศีลธรรมใคร” นายอินฟานติโน กล่าวอย่างเผ็ดร้อน ในงานแถลงข่าว ต่อนักข่าวนับร้อยคนที่กรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์
ไม่เท่านั้น ประธานฟีฟ่าชาวอิตาเลียน แสดงออกถึงความอิดหนาระอาใจที่สุดจะทน หลังจากพยายามปกป้องการตัดสินใจของฟีฟ่ามานับตั้งแต่ปี 2020 (พ.ศ. 2553) ที่เลือกกาตาร์เป็นเจ้าภาพ ซึ่งตอนนั้นเขาเองยังไม่ได้เป็นประธานของฟีฟ่า
การแถลงข่าวนานหนึ่งชั่วโมงครั้งนี้ นายอินฟานติโนแทบไม่ได้พูดถึงประเด็นฟุตบอล แม้เกมการแข่งขันเปิดฉากจะเริ่มวันที่ 20 พ.ย.นี้ แต่กลับเน้นตอบโต้อาการเสแสร้งของชาติตะวันตกที่วิจารณ์กาตาร์
ประเด็นที่กาตาร์ถูกโจมตีมาตลอดคือการละเมิดสิทธิมนุษยชน กรณีที่คนงานต่างด้าวเสียชีวิตระหว่างการก่อสร้างสนามแข่งขัน ไปจนถึงเรื่องสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ของชาติตะวันออกกลางของกาตาร์ และเรื่องสิทธิสตรี สิทธิกลุ่มเพศทางเลือก LGBTQ
นายอินฟานติโนยอมรับว่า การจัดการแข่งขันนี้ไม่ได้สมบูรณ์แบบไปหมด แต่เห็นว่าเสียงวิจารณ์บางเรื่องไม่ยุติธรรม และเป็นเรื่องสองมาตรฐานของชาติตะวันตก พร้อมยกตัวอย่างชีวิตของตนเองที่เคยถูกบูลลี่ เพราะเป็นลูกของคนงานต่างด้าวมาก่อน จึงรู้ว่าการถูกเลือกปฏิบัติเป็นอย่างไร
“วันนี้ ผมรู้สึกเป็นชาวกาตาร์ ผมรู้สึกเป็นอาหรับ ผมรู้สึกเป็นแอฟริกัน ผมรู้สึกเป็นเกย์ ผมรู้สึกเป็นคนพิการ ผมรู้สึกเป็นคนงานต่างด้าว ผมรู้สึกแบบนี้ เพราะผมมองในสิ่งที่ผมถูกบอกมา ผมไม่ได้อ่านอะไรแล้ว เพราะไม่เช่นนั้นผมคงซึมเศร้าแน่ ผมคิดอย่างนั้นนะ” ประธานฟีฟ่ากล่าวซัดเป็นชุด จนนักข่าวพากันตะลึง
“สิ่งที่ผมเจอทำให้ผมย้อนนึกถึงเรื่องของตัวเอง ผมเองเป็นลูกของคนงานต่างด้าว พ่อแม่ผมทำงานหนักมาก มาก ๆ ในแต่ละสถานการณ์” นายอินฟาติโนกล่าว พร้อมย้ำว่า กาตาร์เองก็ปรับตัวให้ก้าวหน้าไปพอสมควร แต่การจะเปลี่ยนแปลงอะไรก็ต้องใช้เวลา และฟีฟ่าก็ไม่ได้ทิ้งประเทศนี้หลังจากทัวร์นาเมนต์จบลง
“เราต้องลงทุนในด้านการศึกษา ให้พวกเขามีโอกาสที่ดีขึ้น ให้ความหวังพวกเขา เราเองก็ต้องให้การศึกษาตัวเงอด้วย การปฏิรูปและการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ต้องใช้เวลา อย่างที่กินเวลาหลายร้อยปีในประเทศของเราในยุโรป เราใช้เวลา การจะได้เห็นผลต้องอาศัยการพูดคุย ไม่ใช่ตะโกน”
จากนั้นประธานฟีฟ่าตอบคำถามนักข่าวถึงเรื่องการแบนเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ใน 8 สนามแข่งขัน โดยมาตัดสินใจกันช่วงนาทีท้ายก่อนเปิดมหกรรม
“ขอให้ผมยืนยันก่อนว่า ทุกการตัดสินใจเกี่ยวกับฟุตบอลโลก เป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างกาตาร์กับฟีฟ่า ทุกการตัดสินใจผ่านการหารือ ถกเถียง หาทางร่วมกัน”
“กรณีเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีสถานที่มากกว่า 200 แห่งที่คุณจจะไปซื้อได้ และมีแฟนโซนกว่า 10 พื้นที่ที่แฟนบอลมากกว่า 1 แสนคนดื่มแอลกอฮอล์ได้ ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า มีแค่ 3 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้นที่คุณดื่มเบียร์ไม่ได้ แต่คุณก็อยู่ได้ใช่มั้ย
โดยเฉพาะถ้าคิดได้ว่า ระเบียบนี้ก็ใช้กันอยู่ในฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส แล้วก็สกอตแลนด์ ก็จะเห็นกันอยู่ว่า ไม่ได้อนุญาตให้เอาเบียร์ไปขายในสนามกันแล้วในตอนนี้ แต่เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นมา เพราะนี่เป็นประเทศมุสลิมใช่ไหม หรือถ้าไม่ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหรอกนะ”
ส่วนเรื่องกลุ่มคนเพศทางเลือก ซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมายในกาตาร์ มีบทลงโทษจำคุกถึง 3 ปีนั้น นายอินฟานติโน กล่าวยืนยันว่า จากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของกาตาร์ ยืนยันได้ว่า กาตาร์ยินดีต้อนรับทุกคน ไม่ว่า ศาสนา สีผิว หรือเพศอะไร
……