ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ไม่ผิดคาด แต่คำแถลงมีหลายอย่างที่เกินคาด ทั้งบอกว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีกสองสามครั้ง และบอกว่าคงไม่ได้เห็นการลดดอกเบี้ยในปีนี้
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ตามเวลาสหรัฐอเมริกา ซึ่งตรงกับวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ตามเวลาประเทศไทย คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) มีมติขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด (Fed) ขึ้นไปอยู่ที่ 4.5%-4.75%
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
มติของเฟดไม่ผิดไปจากที่มีการคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้ ตลาดมีความมั่นใจสูงถึง 98.9% ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% แน่ แต่สิ่งที่ตลาดไม่มั่นใจคือครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เฟดขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ ก่อนที่เฟดจะแถลงหลังการประชุม นักลงทุนพนันกันอยู่ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนมีนาคม จากนั้นจะหยุดขึ้นและใช้อัตราคงที่ต่อไปอีกหลายเดือน แล้วค่อยปรับลดดอกเบี้ยลงในช่วงปลายปี
แม้ว่าการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอีก 0.25% จะไม่ผิดไปจากที่คาด แต่คำแถลงของเจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ส่งสัญญาณบางอย่างต่างออกไปจากที่มีการคาดการณ์กันเอาไว้ อ้างอิงจากบางส่วนที่สำนักข่าว CNBC สรุปออกมา ดังนี้
เฟดโฟกัสที่ตลาดแรงงาน
แกรี โคห์น (Gary Cohn) อดีตซีอีโอ Goldman Sachs และอดีตที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความเห็นว่า เจอโรม พาวเวลล์ บอกชัดเจนว่าข้อมูลที่เฟดจับตาดูอย่างใกล้ชิดมากกว่าสิ่งอื่นใด คือข้อมูลการจ้างงาน
“สิ่งเดียวที่เขายังคงพึ่งพาคือตลาดแรงงาน ณ จุดนี้รู้สึกเหมือนเราขึ้นอยู่กับตลาดแรงงาน”
อย่าคาดหวังว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2566
พาวเวลล์กล่าวว่า เขาไม่คาดหวังว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ตามที่นักยุทธศาสตร์การลงทุนรายใหญ่บางรายคาดการณ์ไว้ เนื่องจากตามคาดการณ์ของเฟดนั้น อัตราเงินเฟ้อคงไม่ลดลงเร็วพอที่จะมีผลให้ตัดสินใจลดดอกเบี้ย
“จากมุมมองของเรา ผมไม่เห็นว่าเราจะลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หากคาดการณ์แนวโน้มของเราเป็นจริง” ประธานเฟดกล่าว
พาวเวลล์ยังกล่าวอีกว่า เขาไม่กังวลเกี่ยวกับตลาดตราสารหนี้ที่จะปรับลดอีกครั้งก่อนที่จะหยุดชั่วคราว เนื่องจากผู้เข้าร่วมตลาดบางรายคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงเร็วกว่าที่เฟดคิด
“ถ้าเราเห็นว่าอัตราเงินเฟ้อลดลงเร็วกว่านี้มาก นั่นย่อมส่งผลต่อการกำหนดนโยบายของเราแน่นอน” พาวเวลล์กล่าว
พาวเวลล์คาดว่าเศรษฐกิจจะยังเติบโต แต่โตช้าลง
เจอโรม พาวเวลล์ คาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโต แม้ว่าจะเป็นไปในอัตราที่ชะลอช้าลง
“สมมติฐานในกรณีฐาน (กรณีทั่วไป ไม่มีปัจจัยเหนือปกติ) ของผมคือจะมีการเติบโตในเชิงบวกในปีนี้” เขากล่าวในการแถลงข่าว
ยังเร็วเกินไปที่จะประกาศชัยชนะจากภาวะเงินเฟ้อ
สัญญาณที่ดีก็คือ พาวเวลล์กล่าวว่ากระบวนการทลายอัตราเงินเฟ้อได้เริ่มขึ้นแล้ว สามารถเห็นได้จากราคาสินค้าที่ลดลง อัตราเงินเฟ้อลดลงในบางหมวด-บางภาค
แต่เขากล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะประกาศชัยชนะจากภาวะเงินเฟ้อ
“มันคงยังเร็วเกินไปที่จะประกาศชัยชนะ หรือคิดว่าเราชนะแล้วจริง ๆ”
นโยบายยังไม่เข้มงวดพอ ขึ้นดอกเบี้ยต่ออีกสองสามครั้ง
แม้จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวไปแล้ว และอัตราเงินเฟ้อก็ขยับลดลงแล้ว แต่ประธานธนาคารกลางสหรัฐบอกว่ายังมีงานต้องทำอีกมาก
“ผมจะบอกว่า โฟกัสของเราไม่ได้อยู่ที่การเคลื่อนไหวในระยะสั้น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนต่อสภาวะทางการเงินในวงกว้าง และมันเป็นวิจารณญาณของเราที่ว่า เรายังไม่ได้อยู่ในจุดที่นโยบายเข้มงวดเพียงพอ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงบอกว่าเราคาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง”
พาวเวลล์กล่าวว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกสองสามครั้ง เพื่อให้อยู่ในระดับที่คิดว่าเหมาะสมที่จะกดให้อัตราเงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมาย
“ทำไมเราถึงคิดว่ามันจำเป็น? เพราะว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงร้อนแรงอยู่”
………………..
