ซีอีโอ Apple พบนายกฯจีน ย้ำความสำคัญในฐานะ “ตลาด” แต่อาจไม่ใช่ “โรงงาน” อีกต่อไป

ซีอีโอ Apple พบนายกฯจีน
ทิม คุก ซีอีโอ Apple ขณะเข้าร่วมงาน China Development Forum 2023 ในกรุงปักกิ่ง วันที่ 25 มีนาคม 2566/ cnsphoto via REUTERS

ทิม คุก ซีอีโอ Apple เข้าร่วมงานประชุมที่จีน ได้พบนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของจีน รวมถึงได้ไปพบปะลูกค้า แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นของ Apple ที่มีต่อจีนซึ่งเป็นตลาดสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ท่ามกลางความเสี่ยงจากการแยกส่วนของเศรษฐกิจ และการย้ายฐานการผลิต

วันที่ 28 มีนาคม 2566 สำนักข่าว South China Morning Post รายงานว่า ทิม คุก (Tim Cook) ซีอีโอของ Apple ได้พบกับ หลี่ เฉียง (Li Qiang) นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของจีนและเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ ของจีน 

ในบ่ายวันจันทร์ที่ 27 มีนาคม ในงาน China Development Forum (CDF) ที่รัฐบาลจีนจัดขึ้นในกรุงปักกิ่ง โดยมีคณะผู้บริหารระดับ C-level และนักวิชาการจากต่างประเทศเข้าร่วมการประชุม

การเดินทางเยือนจีนของซีอีโอ Apple เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางเพื่อยืนยันความมุ่งมั่นของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐที่มีต่อตลาด ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทาน และความไม่แน่นอนทางการเมือง 

หลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของจีนที่เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อต้นเดือนบอกกับคณะผู้บริหารและนักวิชาการที่เข้าร่วมงานประชุมว่า เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วงที่ยากลำบาก มีทั้งความยุ่งยากและความเปลี่ยนแปลง ดังนั้น บริษัทต่าง ๆ ควรมีมุมมองระยะยาวเมื่อมองถึงความท้าทายต่าง ๆ 

เขากล่าวว่า จีนผสานเข้ากับระบบเศรษฐกิจโลกอย่างลึกซึ้ง และเขาให้ความมั่นใจกับตัวแทนภาคธุรกิจและภาควิชาการที่เข้าร่วมประชุมว่า จีนจะยังคงเปิดกว้าง และจะจัดเตรียมสภาพแวดล้อมทางธุรกิจระดับยอดเยี่ยม แม้ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงในเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ก็ตาม 

ในวันเดียวกันนั้น ทิม คุก ยังได้พบกับ หวัง เหวินเทา (Wang Wentao) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีน ซึ่งตามแถลงการณ์ของกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า พวกเขาได้หารือกันเกี่ยวกับ “การพัฒนาของ Apple ในประเทศจีน และการรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรม”

หวัง เหวินเทา กล่าวในการประชุมหารือกับทิม คุก ว่ารัฐบาลจีนยินดีที่จะมอบสภาพแวดล้อมและบริการที่ดีให้กับบริษัทต่างชาติ รวมถึง Apple ด้วย 

ทั้งนี้ การเดินทางไปประเทศจีนของทิม คุก ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ถูกมองว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Apple ที่มีต่อจีนซึ่งเป็นตลาดสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ท่ามกลางความเสี่ยงจากการแยกส่วนของเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทานอย่างต่อเนื่อง

Apple และบริษัทผู้รับจ้างผลิตสินค้าของ Apple ได้ย้ายสายการผลิตบางส่วนออกจากจีนแผ่นดินใหญ่ไปยังประเทศอื่น ๆ เช่น เวียดนามและอินเดีย หลังจากการหยุดชะงักของการผลิตในโรงงานไอโฟนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เนื่องจากการระบาดของของโควิด-19

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าซัพพลายเออร์ของ Apple กำลังพิจารณาที่จะขยายการผลิตนอกประเทศจีน แต่ประเทศจีนก็ยังคงเป็นตลาดสำคัญสำหรับผู้ผลิตสมาร์ทโฟน 

ตามรายงานของ Counterpoint Research ระบุว่า iPhone 13 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่ขายดีที่สุดในประเทศจีนในปี 2565 ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 6.6% โดยภาพรวมแบรนด์ Apple ครองตำแหน่งท็อป 3 ของยอดขายสมาร์ทโฟนในประเทศจีน 

และข้อมูลจาก Counterpoint ที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ยังแสดงให้เห็นว่า Apple เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในไตรมาสที่ 4 ปี 2565 โดยครองส่วนแบ่งตลาดจีนถึง 23.7% ซึ่งเป็นการครองส่วนแบ่งรายไตรมาสสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 

ในงาน CDF ทิม คุกได้บอกกับผู้ฟังในงานว่า ตลอดช่วงเวลาแห่งการพัฒนาของ Apple ในประเทศ 30 ปีที่ผ่านมา Apple กับจีนมีความสัมพันธ์แบบ “Symbiotic relationship” กล่าวคือ เป็นความสัมพันธ์แบบที่มีอย่างน้อยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์โดยที่ไม่มีใครเสียประโยชน์ 

และตามการรายงานของสื่อจีน ทิม คุก ยังประกาศด้วยว่า Apple จะเพิ่มเงินทุนสำหรับโครงการด้านการศึกษาในจีนเป็น 100 ล้านหยวน หรือประมาณ 14.5 ล้านเหรียญสหรัฐ 

นอกจากนั้น เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ 24 มีนาคม ทิม คุก ได้ไปเยือน Apple Store ในย่านซานหลี่ถุน (Sanlitun) ในกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็น Apple Store ที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย เขาถูกห้อมล้อมด้วยฝูงชน และเขาได้ถ่ายรูปกับผู้คนที่มาช็อปปิ้ง ซึ่งการไปเยือนร้านและภาพการถูกรุมล้อมของเขาติดเทรนด์บนโซเชียลมีเดียของจีน