เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เดินทางถึงจีนแล้ว หวังหารือ สี จิ้นผิง ให้จีนเป็นตัวเปลี่ยนเกมของสงครามยูเครน และพัฒนาสัมพันธ์การค้าอียู-จีน
วันที่ 5 เมษายน 2566 เวลาประมาณ 16.00 น. ตามเวลาประเทศจีน ซึ่งตรงกับเวลา 15.00 น. ตามเวลาไทย สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า เอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เดินทางถึงประเทศจีนแล้ว ตามกำหนดการเดินทางเยือนประเทศจีนระหว่างวันที่ 5-7 เมษายน 2566 เพื่อพบปะหารือกับสี จิ้นผิง (Xi Jinping) ประธานาธิบดีจีน เกี่ยวกับการแก้ปัญหาสงครามในยูเครน
ในรายงานข่าว The Guardian เอ็มมานูเอล มาครง หวังว่าจะห้ามสี จิ้นผิง ไม่ให้สนับสนุนรัสเซีย ขณะเดียวกัน ก็หวังพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีนด้วย
เจ้าหน้าที่ของทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ว่า จีนเป็นประเทศเดียวในโลกที่สามารถสร้างผลกระทบต่อความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนได้เร็วและแรง ไม่ว่าในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
รัฐบาลฝรั่งเศสมองว่าจีนมีศักยภาพที่จะเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” ในสงครามยูเครน สามารถทำให้เกิดผลในทางบวกผ่านการเจรจาเกี่ยวกับเงื่อนไขในการยุติความขัดแย้ง ซึ่งจีนสามารถทำให้เกิดการเจรจาได้ หรือทำให้เกิดผลในทางลบก็ได้เช่นกัน หากรัฐบาลจีนเพิ่มการสนับสนุนรัสเซียและช่วยจัดหาอาวุธให้รัสเซีย
จีนแสดงตัวว่ากำลังหาทางแก้ไขปัญหาการโจมตียูเครนของรัสเซียอย่างสันติ แต่การเยือนมอสโกอย่างเป็นมิตรของประธานาธิบดีจีนเมื่อเดือนที่แล้ว และการประกาศแผนสันติภาพที่คนส่วนใหญ่มองว่าเอียงไปทางรัสเซีย ทำให้ประเทศตะวันตกมีความกังวล แต่ยุโรปก็ยังคิดว่าจีนจะมีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาเรื่องนี้
สำนักข่าว Reuters รายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในเวลาต่อมาว่า เอ็มมานูเอล มาครง และอัวร์ซูลา วอน เดอ ไลเอิน (Ursula von der Leyen) ผู้บริหารระดับสูงของสหภาพยุโรปจะจัดการเจรจาในจีน โดยพยายามที่จะ reset ความสัมพันธ์กับจีนในฐานะหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจรายสำคัญ โดยจะมีการพูดคุยเจาะลงไปในประเด็นที่ยุ่งยาก เช่น สงครามในยูเครนและความเสี่ยงทางการค้า
เอ็มมานูเอล มาครง กล่าวว่า กระบวนการลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำธุรกิจใด ๆ กับจีน และเสริมว่าผลประโยชน์ของฝรั่งเศสคือการรักษาโลกที่มีหลายขั้ว
“นโยบาย Strategic autonomy ของยุโรป ไม่ได้หมายถึงการไม่พึ่งพาประเทศอื่นเลย” มาครงกล่าว
นอกจากนั้น Reuters รายงานว่า ก่อนที่เอ็มมานูเอล มาครง จะออกเดินทางจากฝรั่งเศสมายังจีน เขาได้คุยโทรศัพท์กับโจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีสหรัฐ
แถลงการณ์ของทำเนียบเอลีเซ (Elysee) หรือทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสระบุว่า “ผู้นำทั้งสองได้กล่าวถึงความตั้งใจร่วมกันที่จะร่วมมือกับจีนเพื่อเร่งยุติสงครามในยูเครน และมีส่วนร่วมในการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนในภูมิภาค”