จีนว่าอย่างไร เมื่อมาครงชวนแก้ปัญหารัสเซีย-ยูเครน ฟื้นสัมพันธ์จีน-อียู

ผู้นำฝรั่งเศสเยือนจีน
เอ็มมานูเอล มาครง กับสี จิ้นผิง/ REUTERS/ Gonzalo Fuentes

ประธานาธิบดีฝรั่งเศสอ้อน สี จิ้นผิง ช่วยดึงสติรัสเซีย เพื่อยุติสงครามในยูเครน พร้อมเจรจาซ่อมสัมพันธ์เศรษฐกิจจีน-อียู ด้านจีนก็อยากได้อียูเป็นพันธมิตร เพื่อขยายอิทธิพลในเวทีโลกเช่นกัน 

วันที่ 6 เมษายน 2566 สำนักข่าว Reuters รายงานว่า ในการประชุมระดับผู้นำสูงสุดของฝรั่งเศสกับจีน ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้เรียกร้องให้สี จิ้นผิง (Xi Jinping) เตือนสติรัสเซียและช่วยยุติสงครามในยูเครน 

“การรุกรานของรัสเซียในยูเครนได้ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพ (ระหว่างประเทศ)” มาครงกล่าวกับสี จิ้นผิง ขณะยืนข้างกันด้านนอกมหาศาลาประชาชน ก่อนการประชุมอย่างเป็นทางการ “ผมรู้ว่าผมเชื่อใจคุณได้ว่าคุณจะสามารถดึงรัสเซียให้กลับมาสู่การใช้เหตุผล และดึงทุกคนกลับสู่โต๊ะเจรจาได้”  

มาครงเดินทางไปเยือนจีนพร้อมกับ อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป หลังจากที่สหภาพยุโรป (อียู) กับรัฐบาลจีนย่ำแย่มาหลายปีจากหลายประเด็น รวมถึงข้อตกลงด้านการลงทุนที่ชะงักงัน และการที่ยุโรปวิพากษ์วิจารณ์ความโปร่งใสของจีนในเรื่องโควิด-19 และการที่จีนไม่เต็มใจที่จะประณามรัสเซียในกรณีการรุกรานยูเครน 

ผู้นำฝรั่งเศสเยือนจีน
REUTERS / Gonzalo Fuentes


นอกจากผู้นำฝรั่งเศสและผู้บริหารสหภาพยุโรปแล้ว การเดินทางครั้งนี้ยังประกอบด้วยผู้แทนภาคธุรกิจกว่า 50 คน เช่นตัวแทนจาก Airbus, LVMH และ EDF 

ในการกล่าวต่อหน้าสื่อมวลชนหลังเดินทางถึงจีนเมื่อวันพุธที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา มาครงกล่าวว่ายุโรปต้องต้านการลดความสัมพันธ์ทางการทูตและการค้ากับจีน และปฏิเสธการเพิ่มความตึงเครียดระหว่างจีนกับชาติตะวันตก ซึ่งบางคนมองว่าเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ 

นอกจากนั้น Reuters รายงานอีกว่า มาครงได้พูดคุยกับหลี่ เฉียง (Li Qiang) นายกรัฐมนตรีจีน ก่อนที่เขาจะพบกับสี จิ้นผิง ในพิธีต้อนรับแขกของชาติอันประณีตและยิ่งใหญ่ หน้าศาลามหาประชาชน ซึ่งมาครงกับสีได้ยืนชมการยิงสลุตข้างกัน และเดินเคียงข้างกันบนพรมแดง ขณะที่วงดนตรีเครื่องเป่าทองเหลืองบรรเลงเพลงชาติของสองประเทศ 

ส่วนฟอน แดร์ ไลเยน ซึ่งเดินทางเยือนจีนครั้งแรกนับตั้งแต่รับตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการยุโรปในปี 2562 ได้พบกับนายกฯหลี่ เฉียง ของจีนแล้วเช่นกัน 

เธอกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างอียูกับจีนก่อนพบกับนายกฯจีนว่า ยุโรปต้องลดความเสี่ยงทางการทูตและเศรษฐกิจกับจีนลง

“ทั้งยุโรปและจีนได้รับประโยชน์อย่างมากจากความสัมพันธ์นี้ อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพยุโรปและจีนมีความซับซ้อนมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องหารือร่วมกันในทุกแง่มุมของความสัมพันธ์ของเราในวันนี้” 

ผู้นำฝรั่งเศสเยือนจีน
Pool via REUTERS / Ng Han Guan

ด้านจีนเองก็มีความกระตือรือร้นที่จะทำให้แน่ใจว่ายุโรปจะไม่ทำในสิ่งที่จีนมองว่าเป็นความพยายามที่นำโดยสหรัฐ นั่นคือการยับยั้งการผงาดในเวทีโลกของจีน และอย่างน้อยจีนก็มีความหวังที่จะซ่อมแซมความสัมพันธ์ที่แตกแยกกับฝรั่งเศส

สำหรับความเห็นของสี จิ้นผิง Reuters อ้างอิงการรายงานโดยสถานีโทรทัศน์ CCTV ของรัฐบาลจีนว่า สี จิ้นผิง กล่าวว่าจีนและฝรั่งเศสมีความสามารถและความรับผิดชอบที่จะก้าวข้าม “ความต่าง” และ “ข้อจำกัด” ในขณะที่โลกกำลังก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งในระดับประวัติศาสตร์

ส่วนนายกฯหลี่ เฉียง ของจีนกล่าวว่า การเป็นหุ้นส่วนกับอียูและฝรั่งเศสถือเป็น “จุดเริ่มต้นใหม่” และทั้งสองฝ่ายควรยึดมั่นใน “การเคารพซึ่งกันและกัน และความร่วมมือที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย” 

“การเยือนของมาครงคาดว่าจะสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับฝรั่งเศส ตลอดจนเพิ่มความไว้วางใจซึ่งกันและกันทางการเมือง” Global Times สื่อของรัฐบาลจีนเขียนในบทบรรณาธิการ 

มุมมองของสื่อของรัฐบาลจีนตรงกับวัตถุประสงค์ของฝรั่งเศสกับสหภาพยุโรป ซึ่งก่อนหน้าจะเดินทางมายังจีน มีการเปิดเผยจากทางการของฝรั่งเศสว่าเอ็มมานูเอล มาครง และฟอน แดร์ ไลเยน หวังว่าจะห้ามไม่ให้สี จิ้นผิง สนับสนุนรัสเซีย และหวังว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีน  

นักวิเคราะห์บางคนวิเคราะห์ว่า มาครงกับฟอน แดร์ ไลเอิน อาจแบ่งกันเล่นบทตำรวจดีกับตำรวจเลว โดยมาครงผู้ร่าเริงจะส่งเสริมการฟื้นสัมพันธ์จีน-อียู ในขณะที่ฟอน แดร์ ไลเอิน จะกดดันในประเด็นที่ตึงเครียดและสุ่มเสี่ยงที่จะกระทบกระเทือนความสัมพันธ์มากกว่า 

ซึ่งหากพิจารณาตามข่าวที่ออกมา ณ ตอนนี้ ก็เป็นจริงตามที่นักวิเคราะห์มอง เพราะจะเห็นว่ามาครงมีท่าทีที่อ่อนโยนต่อสี จิ้นผิง และไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ละเอียดอ่อนสำหรับจีน อย่างเช่น การกล่าวถึงสหรัฐอเมริกากับไต้หวัน