เมื่อท่องเที่ยวเริ่มฟื้นแต่ภาคอื่นยังแย่ บัณฑิตจบใหม่ในจีนจึงแห่สมัครงานสายการบิน

งานสายการบินจีน
REUTERS/ Thomas Peter

หลังจากที่จีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 และกลับมาเปิดประเทศ ภาคธุรกิจต่าง ๆ ยังฟื้นตัวได้ไม่เท่ากัน บางภาคอุตสาหกรรมซึ่งมีแนวโน้มจะฟื้นตัวดีจึงเป็นภาคที่มีศักยภาพที่จะจ้างงาน และเป็นความหวังของคนหางาน อย่างภาคอุตสาหกรรมการบินที่เลิกจ้างพนักงานไปจำนวนมากในช่วงเกิดโรคระบาด เมื่อการเดินทางกำลังฟื้นก็จำเป็นต้องมีการจ้างคนทำงานจำนวนมาก 

สำนักข่าว Reuters รายงานเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2566 ว่า สายการบินจีนดำเนินการจ้างงานมากที่สุดในรอบ 3 ปีกว่า เนื่องจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และมีผู้ยื่นใบสมัครเป็นลูกเรือจำนวนมาก เพราะผู้ที่เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยสนใจสมัครงานที่ได้ค่าตอบแทนค่อนข้างสูงในภาวะที่ตลาดงานตกต่ำ 

การเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินในจีนมักต้องเรียนจบปริญญาตรีและควรผ่านการทดสอบภาษาอังกฤษอันท้าทายที่จัดสอบโดยรัฐบาล ตรงกันข้ามกับประเทศทางตะวันตกที่อาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินได้รับค่าตอบแทนค่อนข้างต่ำ และส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย 

ตามข้อมูลจากสำนักงานการบินพลเรือนของจีน (CAAC) ในช่วงที่เกิดโรคระบาดโควิด-19 จำนวนพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินในจีนลดลงประมาณ 11,000 คน หรือลดลง 11% จากระดับก่อนเกิดการระบาดซึ่งมีจำนวน 108,955 คน ในปี 2562 โดยมีการเลิกจ้างพนักงนบนเครื่องบินมากกว่าประเทศในตะวันตก 

สายการบินเซี่ยเหมินแอร์ไลน์ (Xiamen Airlines), สายการบินไชน่าเซาท์เทิร์นแอร์ไลน์ (China Southern Airlines) และสายการบิน สปริง แอร์ไลน์ (Spring Airlines) กำลังอยู่ในช่วงของการจ้างงานอย่างสนุกสนาน เนื่องจากการเดินทางภายในประเทศฟื้นตัว และสายการบินต่าง ๆ วางแผนที่จะกลับมาทำการบินไปยังจุดหมายปลายทางยอดนิยมในต่างประเทศ 

งานสายการบินจีน
REUTERS/ Thomas Peter

สายการบินสามารถคัดเลือกผู้สมัครจำนวนมากในช่วงที่ผู้สำเร็จการศึกษาระดับวิทยาลัยจำนวน 11.58 ล้านคนกำลังจะเข้าสู่ตลาดงานของประเทศซึ่งเลวร้ายที่สุดแห่งหนึ่งในรอบหลายทศวรรษ แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่มืดมนทำให้อุปสงค์ของภาคการส่งออกอ่อนแอลง และบริษัทในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น เทคโนโลยี การศึกษา และอสังหาริมทรัพย์ กำลังลดพนักงานลง 

ไห่หนานแอร์ไลน์บอกกับ Reuters ว่า วางแผนจ้างพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินมากกว่า 1,000 คนในปีนี้ แต่ได้รับใบสมัครมากกว่า 20,000 ใบแล้ว และในงานสรรหาคนทำงาน (job fair) ที่จัดขึ้นที่เมืองจี่หนานในเดือนกุมภาพันธ์ ดึงดูดผู้สมัครถึง 900 คน ในขณะที่บริษัทจ้างคนเพียง 60 คน ซึ่งหมายถึงอัตราการคัดเลือกประมาณ 6%

สายการบินไชนาเซาเทิร์นที่วางแผนจ้างลูกเรือ 3,000 คนในปีนี้กล่าวว่า จำนวนผู้สมัครมีมากกว่าที่ต้องการจ้างถึง 7 เท่าภายในสิ้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 โดยทั่วไปแล้ว ผู้สมัครงานในตำแหน่งลูกเรือประมาณ 10% จะประสบความสำเร็จ ได้รับเลือกเข้าทำงาน 

หลี่ ฮันหมิง (Li Hanming) ผู้เชี่ยวชาญอิสระในอุตสาหกรรมการบินของจีนกล่าวว่า มีคนหนุ่มสาวทั้งชายและหญิงจำนวนมากที่ต้องการทำงานนี้ เนื่องจากรายได้ไม่ได้แย่นัก โดยปกติจะอยู่ระหว่าง 10,000 หยวน ถึง 20,000 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 1,454 – 2,908 ดอลลาร์สหรัฐ) และเป็นเรื่องสนุกที่ได้บินไปทั่วโลก   

หลี่วิเคราะห์ว่า แม้ว่าจะมีผู้สมัครงานจำนวนมาก แต่อาจเป็นการยากที่สายการบินจะจ้างงานใหม่ได้ในทันที เนื่องจากหลักสูตรฝึกอบรมภาคพื้นดินที่ใช้เวลานานเป็นปี อาจชะลอความพยายามการเพิ่มขีดความสามารถในการจ้างงานอย่างรวดเร็ว และทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินสูงตามไปด้วย 

“สายการบินมีการคาดการณ์ที่ค่อนข้างสดใสสำหรับปี 2567 ดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นต้องจ้างลูกเรือในตอนนี้ มิฉะนั้นพวกเขาจะขาดคนทำงานในปีหน้า” เขากล่าวเสริม

หวัง เซินโป (Wang Shenbo) ผู้สมัครเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบินไห่หนานแอร์ไลน์ กล่าวว่า เพื่อนร่วมชั้นของเขาส่วนใหญ่กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาโทด้วยความหวังว่าจะได้งานที่ได้รับค่าตอบแทนดียิ่งขึ้น 

“พวกเขาบางคนไม่สนใจงานพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ไม่เหมือนผม… และเพื่อนร่วมชั้นหลายคนได้งานทำ แต่ไม่พอใจกับระดับเงินเดือนที่ได้รับ” 

ทั้งนี้ ตามการรายงานของโกลบอลไทม์ส (Global Times) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยอ้างอิงข้อมูลจากมายคอส (MyCOS) สถาบันให้คำปรึกษาด้านการศึกษาและการวิจัย ระบุว่า เมื่อปี 2564 ในประเทศจีนมีผู้สำเร็จการศึกษาระดับวิทยาลัยเพียง 6.1% เท่านั้นที่มีรายได้มากกว่า 10,000 หยวนต่อเดือน