เงินเฟ้ออังกฤษ มีนาคม 2566 ยังหนัก เป็นประเทศเดียวในยุโรปตะวันตกที่เลขสูงสองหลัก

เงินเฟ้ออังกฤษ มีนาคม 2566
AFP/ Susannah Ireland

อัตราเงินเฟ้ออังกฤษเดือนมีนาคม 2566 ยังสูง 10.1% เป็นประเทศเดียวในยุโรปตะวันตกที่สูงเป็นเลขสองหลัก ปัจจัยหลักที่หนุนให้เงินเฟ้อยังสูงคือราคาอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่พุ่งขึ้น 19.1% เป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 46 ปี 

วันที่ 19 เมษายน 2566 สำนักงานสถิติแห่งชาติ (Office for National Statistics : ONS) ของสหราชอาณาจักร เปิดเผยข้อมูลภาวะเงินเฟ้อว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ 10.1% ผ่อนคลายลงเล็กน้อยจาก เดือนกุมภาพันธ์ ที่พุ่งกลับขึ้นอย่างเหนือคาดที่ 10.4% จากก่อนหน้านั้นที่ลดลงแล้ว ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานยังอยู่ที่ 6.2% เท่ากันกับเดือนกุมภาพันธ์ 

ปัจจัยหลักที่หนุนให้อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษยังสูง คือ ราคาอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่พุ่งขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า (YOY) ถึง 19.1% ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2520 หรือในรอบเกือบ 46 ปี และเพิ่มขึ้นในอัตราที่มากกว่าเดือนกุมภาพันธ์ 2566 (MOM) ที่เพิ่ม 18% 

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนมีนาคม 2566 ของสหราชอาณาจักรผ่อนคลายลงน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ซึ่งตอบแบบสำรวจของ Reuters คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 9.8% 

ตอนนี้สหราชอาณาจักรเป็นประเทศเดียวในยุโรปตะวันตกที่มีอัตราเงินเฟ้อเป็นเลขสองหลัก ยิ่งตอกย้ำถึงผลกระทบที่เกิดจาก Brexit หรือการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป 

อัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรซึ่งสูงขึ้นจนทำสถิติสูงสุดในรอบ 41 ปี ที่อัตรา 11.1% เมื่อเดือนตุลาคม 2565 ยังคงกัดกินอำนาจในการซื้อของคนในสหราชอาณาจักรอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคนทำงานที่ค่าจ้างเพิ่มขึ้นน้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อ 

แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อในภาพรวมผ่อนคลายลงบ้างแล้วในภาพรวม แต่ราคาอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ยังสูงขึ้นในอัตราเร่งที่รุนแรง ขณะที่นม น้ำตาล และน้ำมันมะกอก ราคาพุ่งขึ้นราว 40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า  

อัตราเงินเฟ้อที่ยังเป็นเลขสองหลัก สนับสนุนการเดิมพันว่า Bank of England ธนาคารกลางของสหราชอาณาจักรจะขึ้นดอกเบี้ยต่อไปในการประชุมนโยบายการเงิน ในวันที่ 11 เดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ 

The Guardian รายงานว่า ผู้เดิมพัน 97% วางเดิมพันว่า ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ ทำให้อัตราดอกเบี้ยซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 4.25% ขยับขึ้นไปที่ 4.5% และคาดว่าจะขึ้นไปถึง 5% ในฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน 2566)

ด้านยูโรโซน (20 ประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร) ประกาศออกมาในวันเดียวกันว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ 6.9% ชะลอลงจากอัตรา 8.5% ในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่ราคาอาหารยังคงเพิ่มขึ้น 14.7% (YOY) เพิ่มในอัตราที่มากกว่าเดือนกุมภาพันธ์ (MOM) ซึ่งเพิ่ม 13.9% ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน) ยังอยู่ที่ 7.5% (YOY) มากกว่าในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งอยู่ที่ 7.4% 


อัตราเงินเฟ้อที่ออกมาทำให้มีการอภิปรายกันถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 4 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ว่าจะขึ้น 0.25% หรือ 0.50%