ชาวอเมริกันแห่ย้ายหนีจากนิวยอร์กและแคลิฟอร์เนีย พวกเขาย้ายไปไหน เพราะอะไร

ชาวอเมริกันแห่ทิ้งเมืองใหญ่

เมื่อเร็ว ๆ นี้มีข้อมูลการย้ายถิ่นฐานของสหรัฐออกมาใหม่ว่า ในช่วงปี 2021 และ 2022 ชาวอเมริกันมากถึง 8.2 ล้านคนย้ายที่อยู่อาศัยไปอยู่รัฐอื่น ซึ่งรัฐที่คนแห่ “ย้ายออก” มากที่สุดคือ นิวยอร์ก และแคลิฟอร์เนีย

ส่วนเส้นทางการย้ายถิ่นฐานยอดนิยมคือ การย้ายจากรัฐแคลิฟอร์เนียไปรัฐเทกซัส และจากรัฐนิวยอร์กไปรัฐฟลอริดา

“อินไซเดอร์” (Insider) นำข้อมูลการย้ายถิ่นฐานจากสำนักงานสำมะโนประชากรของสหรัฐมาจัดอันดับเส้นทางการย้ายถิ่นฐานยอดนิยมในปี 2021 และ 2022 พบว่า เส้นทางการย้ายถิ่นยอดนิยม 4 อันดับแรกในปี 2022 ยังคงเหมือนกับในปี 2021 แต่พบว่าในปี 2022 การย้ายถิ่นฐานของชาวแคลิฟอร์เนียไปยังเนวาดา วอชิงตัน และออริกอนได้รับความนิยมมากขึ้น

ท็อป 9 เส้นทางการย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยในปี 2021 และ 2022 รวมกัน ได้แก่

1.แคลิฟอร์เนียไปเทกซัส 102,442 ราย

2.นิวยอร์กไปฟลอริดา 91,201 ราย

3.นิวยอร์กไปนิวเจอร์ซีย์ 75,103 ราย

4.แคลิฟอร์เนียไปแอริโซนา 74,157 ราย

5.ฟลอริดาไปจอร์เจีย 51,380 ราย

6.แคลิฟอร์เนียไปฟลอริดา 50,701 ราย

7.นิวยอร์กไปคอนเนกทิคัต 50,670 ราย

8.แคลิฟอร์เนียไปวอชิงตัน 49,968 ราย

9.แคลิฟอร์เนียไปเนวาดา 48,836 ราย

“อินไซเดอร์” บอกว่าจากอันดับการเคลื่อนย้ายถิ่นฐาน 10 อันดับแรก มี 5 อันดับเป็นการย้ายจากรัฐแคลิฟอร์เนียไปยังรัฐอื่น ได้แก่ เทกซัส แอริโซนา ฟลอริดา วอชิงตัน และเนวาดา โดยการย้ายจากแคลิฟอร์เนียไปเทกซัสยังคงอยู่ในอันดับสูงสุด แต่ในทางกลับกัน มีชาวเทกซัสเพียง 42,000 คนเท่านั้นที่ย้ายไปแคลิฟอร์เนีย

เหตุผลที่ผู้คนย้ายออกจากแคลิฟอร์เนียและนิวยอร์กมากที่สุด มาจากลักษณะร่วมที่สองรัฐนี้มีเหมือนกันคือ ความเป็นเมืองใหญ่ ความเจริญ และความเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ อันนำมาซึ่งค่าบ้าน ค่าครองชีพ และอัตราภาษีที่สูง

คนจำนวนมากย้ายออกจากเมืองใหญ่-รัฐใหญ่ไปเมืองที่เล็กกว่าด้วยเหตุผลเรื่องค่าที่อยู่อาศัยและค่าครองชีพที่ถูกกว่า รวมถึงเพื่อสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน (work-life balance) ที่ดีขึ้น

ส่วนหนึ่งของชาวอเมริกันกว่า 74,000 คนที่ทิ้งแคลิฟอร์เนียไปแอริโซนากล่าวถึงเหตุผลเรื่องค่าครองชีพที่ต่ำกว่า อัตราภาษีที่น้อยกว่า และโอกาสในการทำงานที่มีมากกว่า เนื่องจากการแข่งขันน้อยกว่า

ขณะที่ชาวนิวยอร์กมากกว่า 91,000 คน และชาวแคลิฟอร์เนียประมาณ 50,000 คน ย้ายไปฟลอริดาในช่วงเวลาดังกล่าว ด้วยเหตุผลเรื่องนโยบายภาษีที่เป็นมิตรมากกว่า และสภาพอากาศที่อบอุ่นกว่า

จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นมากเป็นเหตุผลทำให้ตัวเลขการก่อสร้างใหม่ในฟลอริดาแข็งแกร่ง และทำให้ราคาบ้านเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งจากการศึกษาใหม่ของ “ซิลโลว” (Zillow) บริษัทผู้ให้บริการมาร์เก็ตเพลซด้านอสังหาริมทรัพย์พบว่า ในปี 2022 รัฐฟลอริดาซึ่งได้ชื่อว่า “Sunshine State” แซงรัฐนิวยอร์กขึ้นเป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่ามากเป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากแคลิฟอร์เนีย โดยมีมูลค่าประมาณ 3.85 ล้านล้านดอลลาร์ 

ขณะเดียวกัน การไหลเข้าไปของคนร่ำรวยจากรัฐใหญ่ ก็ได้ผลักดันให้ชนชั้นกลางบางส่วนในรัฐฟลอริดาต้องย้ายออกไปหาที่อยู่อาศัยในรัฐอื่นที่พวกเขามีความสามารถที่จะจ่ายค่าบ้านและค่าครองชีพได้ โดยชาวฟลอริดามากกว่า 51,000 คนย้ายไปรัฐจอร์เจียในปี 2021 และ 2022

เส้นทางการโยกย้ายที่สำคัญอีกเส้นทางหนึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คือการย้ายจากรัฐนิวยอร์กไปยังรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งโดยหลัก ๆ แล้วเป็นการย้ายจากนิวยอร์กซิตีไปยังเจอร์ซีย์ซิตี เนื่องจากชาวเมืองนิวยอร์กเผชิญกับค่าที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้นมาก เมืองเจอร์ซีย์ ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งอยู่ห่างจากเขตสแตตันไอส์แลนด์ของนิวยอร์กซิตี้เพียงข้ามฝั่งน้ำ จึงดึงดูดชาวนิวยอร์กหลายหมื่นคนให้เข้าไปอยู่อาศัยในเมือง ซึ่งช่วยให้พวกเขายังเดินทางเข้า-ออกนิวยอร์กได้ง่าย โดยไม่ต้องจ่ายค่าที่อยู่อาศัยแพงเท่าในนิวยอร์ก

แต่ปัญหาก็เหมือนกับที่ฟลอริดา เมื่อชาวนิวยอร์กย้ายเข้าไปมาก ๆ ก็ทำให้เจอร์ซีย์ซิตีกลายเป็นเมืองที่ค่าเช่าบ้านแพงขึ้นจนติดอันดับเมืองที่ค่าเช่าบ้านแพงอันดับต้น ๆ ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดวิกฤตความสามารถในการเข้าถึงที่อยู่อาศัยของคนในเมือง

ในขณะเดียวกัน ชาวนิวยอร์กจำนวนมากย้ายไปยังรัฐคอนเนกทิคัตที่อยู่ทางตะวันออก ซึ่งได้กลายเป็นศูนย์กลางการทำงานระยะไกล (remote work) ไปแล้ว

ด้วยแนวโน้มที่ค่าครองชีพในเมืองใหญ่-รัฐใหญ่เพิ่มมากขึ้น และแนวโน้มที่ชาวต่างชาติต้องการเข้าไปแสวงหาโอกาสการทำงานในเมืองใหญ่ ๆ ที่มีตำแหน่งงานเยอะ คาดว่าเทรนด์การย้ายออกจากเมืองใหญ่-รัฐใหญ่ไปยังรัฐเล็ก ๆ จะยังคงดำเนินต่อไป