ประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล ของเกาหลีใต้เยือนอังกฤษ ได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ที่พระราชวังบักกิงแฮม มีกำหนดการเจรจา FTA และลงนามข้อตกลงหลายฉบับ และมีการทำข้อตกลงบริษัทเกาหลีใต้ลงทุนในอังกฤษมูลค่ากว่า 21,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 927,000 ล้านบาท)
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2023 รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า สำนักงานนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรเผยแพร่แถลงการณ์ว่า สหราชอาณาจักรและเกาหลีใต้จะเริ่มการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ฉบับใหม่ และลงนามในข้อตกลงทางการทูตฉบับใหม่ระหว่างการเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ (state visit) ของยุน ซอกยอล (Yoon Suk Yeol) ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในช่วงสัปดาห์นี้
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
การเยือนสหราชอาณาจักรของประธานาธิบดีเกาหลีใต้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันอังคารที่ 21 พฤศจิกายนนี้ โดยได้รับการต้อนรับจากพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 กษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้รับการต้อนรับด้วยการตั้งกองทหารเกียรติยศและมีการจัดขบวนแห่เพื่อนำไปยังพระราชวังบักกิงแฮม ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงต้อนรับอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้นับเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่เยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ (state visit) นับตั้งแต่พระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2023
ยุน ซอกยอล ซึ่งเป็นผู้นำจากพรรคการเมืองสายอนุรักษนิยมอ้างถึง “วิกฤตการณ์หลายด้าน” (polycrisis) ของความท้าทายระดับโลกเป็นเหตุผลในการแสวงหาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพันธมิตรที่มีความคิดเหมือนกัน เขาจะปราศรัยกับสมาชิกจากทั้งสองสภาของรัฐสภาอังกฤษในวันอังคารที่ 21 พฤศจิกายนนี้ ก่อนที่จะพูดคุยกับ ริชี ซูแน็ก (Rishi Sunak) และจะมีการลงนามในข้อตกลงใหม่ ๆ ในวันพุธที่ 22 พฤศจิกายน
“ด้วยข้อตกลงดาวนิง สตรีต (Downing Street Accord) ใหม่ของเรา เราจะขับเคลื่อนการลงทุน ส่งเสริมการค้า และสร้างมิตรภาพที่ไม่เพียงแต่สนับสนุนเสถียรภาพของโลกเท่านั้น แต่ยังปกป้องผลประโยชน์ของพวกเรา และจะคงอยู่ตลอดไป” ริชี ซูแน็ก กล่าวในแถลงการณ์ซึ่งบอกว่าการเจรจา FTA ใหม่จะเริ่มในวันพุธด้วย
รัฐบาลอังกฤษกล่าวว่า ภาคธุรกิจของเกาหลีใต้จะลงทุน 21,000 ล้านปอนด์ (ประมาณ 927,000 ล้านบาท) ในโครงการพลังงานหมุนเวียนและโครงการโครงสร้างพื้นฐานของอังกฤษ ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้สองประเทศตกลงที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในด้านต่าง ๆ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเกาหลีใต้เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ และปัญญาประดิษฐ์ (AI)
นอกจากนี้ ข้อตกลงดาวนิงสตรีตยังจะเสริมสร้างศักยภาพร่วมของอังกฤษและเกาหลีใต้ในการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ (UN) ต่อเกาหลีเหนือ เพื่อป้องกันการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
รอยเตอร์อ้างอิงการรายงานของสำนักข่าวยอนฮับ (Yonhab) ของเกาหลีใต้ว่า ประธานาธิบดียุนกล่าวในการพบปะกับชุมชนชาวเกาหลีใต้ว่า เกาหลีใต้และอังกฤษเป็นหุ้นส่วนที่แบ่งปันคุณค่าสากลด้านเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน และหลักนิติธรรมร่วมกัน และก่อตั้งประชาคมเศรษฐกิจผ่านการค้า
ภายใต้การนำของยุน ซอกยอล เกาหลีใต้มุ่งเน้นไปที่การกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง และการทหารกับสหรัฐ ซึ่งเป็นพันธมิตรหลัก ขณะเดียวกัน ก็พยายามรักษาการค้ากับจีน และทำงานเพื่อก้าวข้ามข้อพิพาททางประวัติศาสตร์ที่มีมายาวนานกับญี่ปุ่น ซึ่งมีพันธมิตรร่วมกันคือสหรัฐ
“ด้วยการกลับมาเริ่มการเจรจาการค้าเสรี เราจะวางรากฐานสำหรับการจัดการห่วงโซ่อุปทาน และความร่วมมือซึ่งกันและกัน” ประธานาธิบดีเกาหหลีใต้ให้สัมภาษณ์ในงานที่กรุงลอนดอน พร้อมเสริมว่าทั้งสองประเทศจะขยายความร่วมมือในอุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์และอุตสาหกรรมการทหาร
ขณะเดียวกัน สหราชอาณาจักรที่ถอนตัวออกมาจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) กำลังสร้างความสัมพันธ์ของตนเองในอินโดแปซิฟิก และได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก “ความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก” (CPTPP) เรียบร้อยแล้วในปีนี้
การเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีฉบับใหม่ของสหหราชอาณาจักรกับเกาหลีใต้จะมีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้แทนที่ข้อตกลงที่ยกยอดมาจากตอนที่สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป ซึ่งมีพื้นฐานมาจากการจำลองข้อตกลงกับสหภาพยุโรปตั้งแต่ปี 2011 และการลดภาษีศุลกากรในหลายด้าน
สหราชอาณาจักรกล่าวว่า หวังว่าข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับเกาหลีใต้จะปูทางไปสู่การค้าทางดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น และปรับปรุงกระบวนการที่ซับซ้อน และมีกฎแหล่งกำเนิดสินค้า (rule of origin) ใหม่ ๆ
“ข้อตกลงที่ได้รับการปรับปรุงใหม่และทันสมัยนี้จะช่วยส่งเสริมภาคบริการชั้นนำระดับโลกของเรา ขณะเดียวกัน ก็สร้างโอกาสใหม่ ๆ สำหรับการส่งออกสำหรับสหราชอาณาจักร” เคมี บาเดนอช (Kemi Badenoch) รัฐมนตรีกระทรวงธุรกิจและการค้าของอังกฤษกล่าว