ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมามีข้อมูลและข่าวออกมาให้เห็นอย่างต่อเนื่องว่า บริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะชาติตะวันตกกำลังออกห่างจีน มีการแบ่งขั้วเป็นทีมพันธมิตรตะวันตกกับทีมพันธมิตรจีน แต่ความพยายาม “ลดการพึ่งพาจีน” ทำได้ไม่ง่าย มิเช่นนั้นคงไม่มีข้อมูลใหม่ล่าสุดออกมาให้เห็นว่า เยอรมนีลงทุนในจีนเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์
ข้อมูลอย่างเป็นทางการของ “ธนาคารกลางสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี” (Deutsche Bundesbank) วิเคราะห์โดยสถาบันวิจัยเศรษฐกิจเยอรมัน (IW) ที่เปิดเผยกับ “รอยเตอร์” (Reuters) แสดงให้เห็นว่า มูลค่าการลงทุนโดยตรงของเยอรมนีในประเทศจีนเพิ่มขึ้น 4.3% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 11,900 ล้านยูโร (ประมาณ 461,245 ล้านบาท) ในปี 2023 และสัดส่วนการลงทุนในจีนจากภาพรวมการลงทุนในต่างประเทศทั้งหมดของเยอรมนีก็เพิ่มขึ้นด้วย
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ไทย และหลายชาติ ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
รายงานของ IW ระบุว่า ภาพรวมการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของเยอรมนีในปี 2023 ลดลงเหลือ 116,000 ล้านยูโร จากประมาณ 170,000 ล้านยูโรในปี 2022 เนื่องจากเศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งใหญ่ที่สุดของยุโรปจวนจะเข้าสู่ภาวะถดถอย
ตามตัวเลขของหน่วยงานสถิติของเยอรมนี จีนกินส่วนแบ่งเงินลงทุนในต่างประเทศของเยอรมนีเป็น 10.3% ในปี 2023 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2014 ขณะที่สัดส่วนการลงทุนโดยตรงของเยอรมนีในประเทศอื่น ๆ ในเอเชียทรงตัวอยู่ที่สัดส่วนประมาณ 8%
ข้อมูลเหล่านี้ตอกย้ำความกังวลของรัฐบาลเยอรมัน (และชาติพันธมิตรตะวันตก) ที่ว่าบริษัทเยอรมันยังคงลงทุนในจีนอย่างหนักต่อไป แม้ว่ารัฐบาลจะร้องขอให้ภาคธุรกิจลดความเสี่ยงและลดหลักประกันการลงทุนในจีนลงก็ตาม
เมื่อดูความเปลี่ยนแปลงรายปีพบว่าการลงทุนของบริษัทสัญชาติเยอรมันในจีนในช่วง 3 ปีล่าสุดยังคงมากเช่นเดียวกับในช่วง 6 ปีก่อนหน้า
น่าสนใจว่าทำไมเยอรมนีลงทุนในจีนเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ ทั้งที่เป็นหนึ่งในชาติตะวันตกที่พยายามถอยห่างจีน ?
ไม่ใช่ว่าบริษัทเยอรมันไม่มีการถอนการลงทุนออกจากจีนเลย ในรายละเอียดของข้อมูลเผยให้เห็นว่า บริษัทเยอรมันมีการถอนทุนออกจากจีนเช่นกันกับบริษัทสหรัฐ แต่การลงทุนของบริษัทเยอรมันในจีนที่ยังคงเพิ่มขึ้นในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาได้รับแรงหนุนมาจากการทำเงินกำไรกลับมาลงทุนใหม่ โดยเฉพาะบรรดาบริษัทขนาดใหญ่
เยอร์เกน มัตเทส (Juergen Matthes) นักเศรษฐศาสตร์ของ IW กล่าวในรายงานว่า สามารถสรุปได้ว่ายังมีความแตกต่างระหว่างบริษัทขนาดใหญ่ซึ่งมีจำนวนไม่มาก กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กซึ่งคิดเป็นส่วนใหญ่ โดยมีการศึกษาอื่น ๆ และหลักฐานเล็ก ๆ น้อย ๆ สนับสนุนข้อสรุปที่ว่า ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กบางบริษัทกำลังพยายามลดการมีส่วนร่วมกับจีน หรือแม้กระทั่งถอนธุรกิจออกจากจีนโดยสิ้นเชิง
ผลสำรวจของหอการค้าเยอรมันในประเทศจีนที่ตีพิมพ์เมื่อเดือนที่แล้วพบว่า สัดส่วนของบริษัทเยอรมันที่ออกจากตลาดจีนหรือกำลังพิจารณาที่จะออกมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังคิดเป็นสัดส่วนเพียง 9% ของบริษัทเยอรมันทั้งหมดในจีน
เยอรมนีก็เหมือนกับอีกหลายประเทศที่ต้องเผชิญกับภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะถึงแม้ว่าต้องการลดความเสี่ยงจากการลงทุนในจีนลง แต่จีนก็ยังคงเป็นคู่ค้าที่สำคัญที่สุดของเยอรมนีเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน
รัฐบาลผสมของเยอรมนียังพยายามผลักดันให้ภาคธุรกิจลดความเสี่ยงจากการค้าขายและลงทุนในจีน อย่างไรก็ตาม สมาชิกในรัฐบาลมีความเห็นแตกแยกกันว่าต้องลดความเสี่ยงมากน้อยเพียงใดถึงจะเพียงพอ