ในปี 2023 ทั่วโลกมีเศรษฐีพันล้าน (บาท) เพิ่มขึ้นวันละ 70 คน

คนรวย

ในแต่ละวันมีคนจำนวนมากที่มีโอกาสทำเงินมหาศาลจนเปลี่ยนสถานะตัวเองจากกลุ่มคนร่ำรวยระดับหนึ่งทะลุขึ้นไปเป็นร่ำรวยมากเป็นพิเศษ

ดังที่ “ไนท์แฟรงค์” (Knight Frank) บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกเปิดเผยเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ในปี 2023 ที่ผ่านมา ทั่วโลกมีคนที่ได้เลื่อนเข้าไปอยู่ในกลุ่มคนที่มีฐานะร่ำรวยมากเป็นพิเศษวันละเกือบ 70 คน

บุคคลที่มีทรัพย์สินสูงเป็นพิเศษ (Ultra-High-Net-Worth Individual : UHNWI) หรือผู้ที่มีความมั่งคั่งร่ำรวยมากตาม “รายงานความมั่งคั่ง” ของไนท์แฟรงค์ กำหนดเกณฑ์ความมั่งคั่งสุทธิขั้นต่ำไว้ที่ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,076 ล้านบาท) ซึ่งในปี 2023 ทั่วโลกมีคนกลุ่มนี้อยู่จำนวน 627,000 คน เพิ่มขึ้น 4.2% จากปีก่อนหน้า เฉลี่ยเป็นเพิ่มขึ้นวันละเกือบ 70 คน

ในทวีปอเมริกาเหนือ จำนวนกลุ่มผู้มั่งคั่งระดับ UHNWI เพิ่มขึ้นเร็วที่สุด โดยเพิ่มขึ้น 7.2% สะท้อนถึงผลงานที่แข็งแกร่งของหุ้นสหรัฐและเศรษฐกิจสหรัฐ อัตราเงินเฟ้อที่ลดลง บวกกับความหวังที่เพิ่มมากขึ้นถึงความก้าวหน้าของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่การเติบโตของเศรษฐกิจก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าฟื้นตัวได้ และการว่างงานอยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

“แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวดีขึ้น ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ และการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาในตลาดทุน ช่วยสร้างความมั่งคั่งทั่วโลก” เลียม เบลีย์ (Liam Bailey) หัวหน้าฝ่ายวิจัยระดับโลกของไนท์แฟรงค์กล่าว

นอกจากสินทรัพย์ในตลาดทุนแล้ว สินทรัพย์อื่น ๆ ก็ให้ประโยชน์แก่บรรดาผู้มั่งคั่งเช่นกัน โดยราคาทองคำเพิ่มขึ้น 15% ราคาบิตคอยน์ (Bitcoin) เพิ่มขึ้น 155% มูลค่าที่อยู่อาศัยในตลาดชั้นนำของโลกเพิ่มขึ้น 3.1% และค่าเช่าอสังหาฯ เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าของอัตราเฉลี่ยในระยะยาว แต่ในทางกลับกัน การลงทุนในสินค้าหรู ทั้งในภาพรวมและรายสินค้าให้ผลตอบแทนเป็นลบ

ข้อค้นพบหนึ่งที่น่าสนใจคือ ในกลุ่มเศรษฐีพันล้านทั่วโลก มีสัดส่วนของ “ผู้หญิง” เพียง 11% เท่านั้น แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นแล้วจากสัดส่วน 8% ในช่วงไม่ถึง 10 ปีที่แล้ว

นอกจากนั้น การสำรวจของไนท์แฟรงค์พบว่า เหล่า UHNWI รุ่นเบบี้บูมเมอร์มีมุมมองแง่ลบต่อตลาดและเศรษฐกิจมากกว่ารุ่นอื่น โดยมีเพียง 52% เท่านั้นที่คาดการณ์ว่าความมั่งคั่งของพวกเขาจะเติบโตในปีถัดไป และมี UHNWI รุ่นเบบี้บูมเมอร์น้อยกว่า 10% ที่คาดว่าจะซื้อบ้านในปีนี้ ขณะที่ UHNWI รุ่นมิลเลนเนียล หรือ Gen Y มีมากกว่า 20% ที่คาดว่าจะซื้อบ้านในปีนี้

ความแตกต่างนี้อาจสะท้อนได้หลายอย่าง ทั้งคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์มีบ้านของตนเองอยู่แล้ว ในตอนนี้พวกเขามีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการจำนอง เมื่ออัตราดอกเบี้ยอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี หรือกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการที่ตลาดหุ้นตกต่ำ หรือภาวะเศรษฐกิจถดถอย และพวกเขาไม่เต็มใจที่จะลงทุนก้อนใหญ่ ไม่ว่าจะกับสินทรัพย์ใด ๆ

มองไปยังอนาคต ไนท์แฟรงค์คาดการณ์ว่าจำนวนผู้มีฐานะร่ำรวยมากเป็นพิเศษ (UHNWI) จะเพิ่มขึ้น 28% ในช่วงเวลา 5 ปีข้างหน้า นำโดยชาวอินเดียและจีนแผ่นดินใหญ่

นอกจากนี้ ยังส่งสัญญาณว่าจะมีการโอนสินทรัพย์มูลค่า 90 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,228 ล้านล้านบาท) จากคนรุ่นเก่าไปสู่คนรุ่นมิลเลนเนียลในอีก 2 ทศวรรษข้างหน้า ซึ่งคาดว่าการส่งต่อทรัพย์สินดังกล่าวนี้จะสร้าง “เจเนอเรชั่นที่ร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์”