อังกฤษ “คนจน” เพิ่ม 600,000 คนใน 2 ปี พุ่งขึ้นหนักสุดในรอบ 30 ปี

อังกฤษ คนจน
ริมถนนในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษสามารถพบเห็นคนไร้บ้านได้ทั่วไป (ภาพโดย HENRY NICHOLLS / AFP)

จำนวนคนอังกฤษที่ตกอยู่ใน “ความยากจนสัมบูรณ์” เพิ่ม 600,000 คนในช่วงปี 2022-2023 เพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 30 ปี 

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2024 สำนักข่าวบีบีซี (BBC) รายงานอ้างอิงข้อมูลใหม่ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร หรืออังกฤษว่า วิกฤตราคาพลังงานที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากรัสเซียรุกรานยูเครน ทำให้ผู้คนหลายแสนคนในสหราชอาณาจักรต้องเข้าสู่ความยากจนสัมบูรณ์ (Absolute Poverty) หรือความยากจนข้นแค้น ส่งผลให้จำนวนคนยากจนในอังกฤษเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในรอบ 30 ปี 

ชาวอังกฤษที่ตกอยู่ในภาวะยากจนสัมบูรณ์มีจำนวน 12 ล้านคนในปี 2022-2023 เพิ่มขึ้น 600,000 คน จากช่วง 2 ปีก่อนหน้านั้น ซึ่งหมายความว่าอัตราความยากจนสัมบูรณ์ในสหราชอาณาจักรขณะนี้อยู่ที่ 18% เพิ่มขึ้นมา 0.78 จุดเปอร์เซ็นต์ จาก 17.22% 

ความยากจนสัมบูรณ์ เป็นมาตรวัดที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษจะนำมาใช้ในการอธิบายรายงานการทำงานของรัฐบาล 

ทั้งนี้ ความยากจนสัมบูรณ์ (Absolute Poverty) คือความยากจนในระดับที่ไม่สามารถซื้อสิ่งที่เป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ ซึ่งในสหราชอาณาจักรกำหนดเกณฑ์ไว้ที่การมีรายได้ต่ำกว่ารายได้เฉลี่ยของประเทศ 40% ขึ้นไป กล่าวคือหากใครมีรายได้ต่ำกว่ารายได้เฉลี่ย 40% ขึ้นไป ถือว่าอยู่ในความยากจนสัมบูรณ์

ข้อมูลใหม่นี้ระบุว่าจะมีครอบครัวที่ตกอยู่ในความยากจนข้นแค้นอย่างแท้จริงมากขึ้นกว่านี้ หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เช่น มาตรการอุดหนุนค่าครองชีพ 

เมล สไตรด์ (Mel Stride) รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานและบำนาญของสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รวบรวมตัวเลขดังกล่าว ชี้ไปที่แพ็กเกจช่วยเหลือด้านค่าครองชีพของรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งมากที่สุดในยุโรป มูลค่าเฉลี่ย 3,800 ปอนด์ต่อครัวเรือน ว่าหากไม่มีมาตรการเหล่านี้ ภาวะความยากจนสัมบูรณ์ในอังกฤษจะแย่กว่านี้ถึง 3 เท่า 

สไตรด์กล่าวอีกว่า การสนับสนุนระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนของรัฐบาลได้ช่วยป้องกันไม่ให้ประชาชนราว 1.3 ล้านคนต้องตกอยู่ในความยากจนในปี 2022-2023 

เขายังชี้ให้เห็นด้วยว่า มีการเพิ่มระดับเงินบำนาญและสวัสดิการขึ้นอีก 10% ในปีนี้ ซึ่งมีผลบังคับใช้หลังจากมีการรวบรวมตัวเลขความยากจนนี้แล้ว

นอกจากนั้น ข้อมูลนี้ระบุว่าระดับความยากจนสัมบูรณ์ในหมู่คนวัยเกษียณซึ่งเป็นผู้รับสิทธิบำนาญไม่เปลี่ยนแปลง และยังคงอยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ แต่จำนวนเด็กและผู้ใหญ่วัยทำงานที่ตกอยู่ในความยากจนเพิ่มขึ้น 300,000 คน 

จากตัวเลขเหล่านี้หมายความว่า เด็ก 1 ใน 4 ของทั้งหมดในประเทศมีความยากจนข้นแค้นอย่างยิ่ง และอัตราความยากจนของเด็กที่เพิ่มขึ้น 2% นั้นเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษ 1990 เป็นอย่างน้อย