ข้อมูลเผยแพร่เมื่อ 13 สิงหาคม 2567 อัพเดตล่าสุดเมื่อ 14 สิงหาคม เวลา 08.23 น.
กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐและตัวแทนพรรคเดโมแครตสู้ศึกประธานาธิบดีสหรัฐ มีกำหนดแจงรายละเอียดในนโยบายหลักที่จะลดค่าใช้จ่ายของครอบครัวชนชั้นกลาง เน้นแก้ไขปัญหาบริษัทรายใหญ่โก่งราคาสินค้า ในการกล่าวปราศรัยครั้งสำคัญที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา รัฐที่สองพรรคมีคะแนนสูสี หรือสะวิงสเตต ศุกร์นี้
วันที่ 13 สิงหาคม 2024 รอยเตอร์รายงานว่า นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐและตัวแทนพรรคเดโมแครตเตรียมปราศรัยนโยบายเศรษฐกิจสำคัญ โดยจะกล่าวในรายละเอียดเกี่ยวกับแผนลดค่าใช้จ่ายของครอบครัวชนชั้นกลาง ปัญหาอันดับต้น ๆ ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งกังวล โดยมีเป้าหมายที่บริษัทโก่งราคาสินค้า ถือเป็นสัญญาณว่าแคมเปญหาเสียงของกมลาอาจปลุกบรรดาบริษัทใหญ่และผู้บริหารบริษัท ในการปราศรัยใหญ่ที่เมืองราลีห์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา ในวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคมนี้
เดโมแครตยังคงหวังอย่างยิ่งว่าจะสามารถพลิกชนะเลือกตั้งในรัฐนอร์ทแคโรไลนา เจ้าหน้าที่ทีมหาเสียงของแฮร์ริสระบุว่า การปราศรัยของแฮร์ริสเพื่อวางโครงแผนลดค่าใช้จ่ายสำหรับครอบครัวชนชั้นกลางลงอีก และจัดการกับบริษัทที่โก่งราคาสินค้า ถือเป็นแผนงานและนโยบายหลายอย่างสำหรับงานปราศรัยที่ไม่เคยถูกแจ้งให้ทราบมาก่อน หลังจากแฮร์ริสยกเลิกงานปราศรัยในรัฐสมรภูมิหรือสะวิงสเตตเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากอิทธิพลพายุหมุนเขตร้อนเดบบี้
การปราศรัยหาเสียงในรัฐนอร์ทแคโรไลนาแสดงถึงความมั่นใจที่เพิ่มมากขึ้นในโมเมนตัมของการหาเสียงที่เหลือเวลาน้อยกว่าสามเดือนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พฤศจิกายน ซึ่งต้องแข่งกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน
เป้าหมายจัดการความโลภของภาคธุรกิจ
ขณะที่ทีมยุทธศาสตร์หาเสียงของแฮร์ริส มองว่าต้องชนะในรัฐเพนซิลวาเนีย แต่กับรัฐนอร์ทแคโรไลนานั้นยิ่งต้องชนะมากกว่า เนื่องจากเดโมแครตชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในรัฐนี้เพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้นในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา โดยในรัฐเพนซิลวาเนีย ไบเดนแพ้ทรัมป์ห่างแค่ 1.3 เปอร์เซ็นต์ หรือเพียง 74,000 คะแนน รายงานระบุอีกว่า คำปราศรัยของแฮร์ริสจะถูกจับตาอย่างใกล้ชิดเพื่อพิจารณาสไตล์หรือแก่นสารที่ต่างจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งมีนโยบายเศรษฐกิจหลายอย่างที่ได้รับคะแนนนิยมน้อยจากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ที่ไม่พอใจเกี่ยวกับค่าบ้าน ค่าหมอ ค่าของชำ และค่าก๊าซเชื้อเพลิง
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แฮร์ริสประกาศสนับสนุนกำจัดภาษีที่เกิดจากการที่นักลงทุนได้รับเงินปันผลจากบริษัทที่นักลงทุนถือหุ้นอยู่ โดยจะมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายด้วย ซึ่งเป็นจุดยืนที่คล้ายกับทรัมป์ แฮร์ริสจะจัดงานที่ทำเนียบขาวร่วมกับไบเดนในวันพฤหัสฯที่ 15 สิงหาคมนี้ เวลาท้องถิ่นสหรัฐ ซึ่งคาดว่าเน้นที่ต้นทุนการดูแลรักษาสุขภาพ
ไบเดนโทษว่า เพราะความโลภของภาคธุรกิจที่ส่งผลให้ราคาสินค้าสูงขึ้น กล่าวหาหลายบริษัทที่กำไรเพิ่มขึ้นจากการลดลงของขนาด และโดยความล้มเหลวที่จะทำให้ราคาสินค้าลดลงเมื่อไปถึงมือผู้บริโภค ซึ่งบริษัทที่ทำธุรกิจสินค้าเพื่อการบริโภครายใหญ่หลายแห่งเพิ่มราคาสินค้าอย่างรวดเร็วในหลายไตรมาสที่ผ่านมา เมื่อไม่นานมานี้ และราคาอาหารเพิ่มสูงขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ในระหว่างปี 2019-2023
ย้อนไปเมื่อครั้งแฮร์ริสเป็นอัยการสูงสุดของรัฐแคลิฟอร์เนียปี 2011-2016 แฮร์ริสควบคุมดูแลในประเด็นความโลกของภาคธุรกิจและการโก่งราคาสินค้า หรือ “corporate greed and price gouging” โดยได้ท้าทายบริษัทยา น้ำมัน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องสำอางหลายบริษัท
เจ้าหน้าที่ทีมหาเสียงแฮร์ริสกล่าวอีกว่า แฮร์ริสรู้ว่าราคาที่ต้องจ่ายนั้นสูงเกินไปและจะทำให้การรับมือกับเงินเฟ้อเป็นวาระงานสำคัญตั้งแต่วันแรก ทั้งนี้ วิธีในการบรรลุเป้าหมายของแฮร์ริสต่างจากทรัมป์อย่างมาก ซึ่งทรัมป์แย้งว่าการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ในหลายอุตสาหกรรมตั้งแต่การเงินไปจนถึงพลังงานจะทำให้ต้นทุนต่ำลง และช่วยหนุนการเติบโตของอุตสาหกรรม
จากผลสำรวจทั่วประเทศของรอยเตอร์/อิพซอส เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า แฮร์ริสนำทรัมป์ 5 จุดเปอร์เซ็นต์ โดยแฮร์ริสมีคะแนน 42 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ทรัมป์ 37 เปอร์เซ็นต์ แฮร์ริสนำห่างจากทรัมป์มากขึ้นจากเมื่อ 22-23 กรกฎาคมที่ผ่านมา