อัตราหนุ่มสาวจีนว่างงาน ก.ค.เพิ่มเป็น 17.1% สูงสุดในปีนี้-น.ศ.จบใหม่ มิ.ย. อีกราว 12 ล้านคน

(เอเอฟพี)

อัตราคนหนุ่มสาวจีนว่างงานเพิ่มสูงขึ้นเป็น 17.1% ในเดือนกรกฎาคม ถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในปีนี้ ท่ามกลางตัวเลขทางเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังอื่น ๆ ที่ทางการจีนทยอยเผยแพร่ รวมถึงดีมานด์การขอสินเชื่อจากธนาคารหดตัวเป็นครั้งแรกรอบเกือบ 20 ปี

วันที่ 17 สิงหาคม 2024 เอเอฟพีรายงานว่า อัตราการว่างงานหนุ่มสาวในประเทศจีนที่มีอายุ 16-24 ปีเพิ่มสูงขึ้นสู่ 17.1% ในเดือนกรกฎาคม จาก 13.2% ในเดือนมิถุนายน นับเป็นระดับที่สูงที่สุดในปีนี้ (2024) ในสถานการณ์ที่จีนกำลังรับมือกับปัญหาการว่างงานในคนหนุ่มสาว ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นหนี้อย่างหนักและปัญหาการค้ากับตะวันตกที่รุนแรงขึ้น

สำนักข่าวซินหัวรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งดูแลนโยบายเศรษฐกิจเรียกร้องให้มีการรับฟังบริษัททั้งหลายที่ประสบความยากลำบากและปัญหาของบริษัทเหล่านี้ควรได้รับการแก้ไขจริง ๆ เสียที

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (National Burea of Statistics หรือ NBS) ระบุว่า อัตราการว่างงานของผู้ที่มีอายุ 16-24 ปี เพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดือนมิถุนายนซึ่งอยู่ที่ 13.2% ซึ่งอัตราการว่างงานหนุ่มสาวที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดนี้สูงสุดที่ 21.3 เปอร์เซ็นต์ในเดือนมิถุนายนปี 2023 ก่อนที่ทางการจีนระงับการเผยแพร่ตัวเลขว่างงานลงชั่วคราวและต่อมาเปลี่ยนวิธีวิทยา โดยไม่นับรวมนักเรียนเข้าไปในสมการตัวเลขว่างงานด้วย

นักศึกษาเกือบ 12 ล้านคนที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจีนในเดือนมิถุนายนปีนี้ สะท้อนการแข่งขันที่สูงในตลาดแรงงานที่การงานหาทำยากอยู่ก่อนแล้วและอาจอธิบายได้ถึงการว่างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ความสำคัญของปัญหานี้สะท้อนผ่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนระบุเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ว่า การรับมือปัญหาว่างงานในคนหนุ่มสาวต้องถือเป็นวาระงานสำคัญลำดับแรก

ในเดือนกรกฎาคม ทางการจีนทยอยเผยแพร่ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่น่าผิดหวัง ในเดือนกรกฎาคม ผู้ที่มีอายุ 25-29 ปี อัตราการว่างงานอยู่ที่ 6.5% ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 6.4% และสำหรับภาพรวมแรงงาน อัตราการว่างงานอยู่ที่ 5.2% อย่างไรก็ตามตัวเลขสถิติจากทางการ NBS ให้ภาพสถานการณ์จ้างงานในภาพรวมที่ไม่สมบูรณ์นัก เนื่องจากนับรวมเฉพาะพื้นที่เมือง

ADVERTISMENT

ตัวเลขว่างงานที่เพิ่งเปิดเผยนี้เกิดขึ้นพร้อมกับที่รัฐบาลจีนเปิดเผยตัวเลขทางเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังอื่น ๆ การผลิตภาคอุตสาหกรรมที่น่าหดหู่ แม้ว่ามาตรการหลายอย่างเมื่อเร็ว ๆ นี้ของรัฐบาลมุ่งที่การกระตุ้นการเติบโตแล้วก็ตาม

ตัวเลขการเติบโตของการผลิตภาคอุตสาหกรรมอ่อนแอ ซึ่งขยายตัว 5.1% ลดลงจากเดือนมิถุนายนที่ขยายตัว 5.3% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ เมืองใหญ่ ๆ ของจีนยังแจ้งรายงานราคาอสังหาริมทรัพย์ลดลงอีกครั้งในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นสัญญาณของดีมานด์ที่ซบเซา ความต้องการสินเชื่อจากธนาคารยังหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปี ตามตัวเลขทางการจีนที่เผยแพร่เมื่อต้นสัปดาห์นี้

ADVERTISMENT

อีกทั้งจีนยังเผชิญความท้าทายระดับโลกที่ยังคงเพิ่มขึ้น โดยสหภาพยุโรปหรืออียูและสหรัฐอเมริกาเพิ่มมาตรการกีดกันการค้าเพื่อปกป้องตลาดของตนจากสินค้าราคาถูกของจีนและการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม