MSP กลุ่มประเทศร่ำรวย ผุด “เครือข่ายการเงิน” มุ่งทลายการครอบงำแร่ยุทธศาสตร์จีน

ภาพ รอยเตอร์

กลุ่มหุ้นส่วนความมั่นคงทางแร่ (MSP) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศพัฒนาแล้ว นำโดยสหรัฐและสหภาพยุโรป (อียู) เปิดตัวเครือข่ายความร่วมมือทางการเงิน เพื่อหาทางทลายการครอบงำอุปทานแร่สำคัญของจีน มุ่งระดมทุนร่วมกันและลดความเสี่ยงโปรเจ็กต์เหมืองแร่เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

วันที่ 24 กันยายน 2024 นิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานว่า หุ้นส่วนความมั่นคงทางแร่ (Mineral Security Partnership : MSP) ที่ประกอบด้วย 14 ประเทศซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศพัฒนาแล้ว รวมถึงสหรัฐ และสหภาพยุโรป หรืออียู เปิดตัวความร่วมมือ “เครือข่ายทางการเงิน” เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2024 นับเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะทำลายการถือครองซัพพลายแร่ที่สำคัญของจีน

เครือข่ายทางการเงินของหุ้นส่วนความมั่นคงทางแร่ (Mineral Security Partnership Finance Network) มุ่งหวังที่จะเอาชนะการขาดแคลนด้านการลงทุน ที่ขัดขวางการพัฒนาซัพพลายเชนของวัตถุดิบที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ อย่างลิเทียม นิกเกิล แรร์เอิร์ธ หรือแร่หายาก นอกประเทศจีน ซึ่งแร่ดังกล่าวถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในการผลิตสมัยใหม่ และมีความสำคัญในการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน เนื่องจากมีการใช้แร่ดังกล่าวในเทคโนโลยีอย่างยานยนต์พลังงานไฟฟ้า และกังหันลม

การประชุมของกลุ่มความร่วมมือนี้ ซึ่งมีผู้แทนของบริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ ๆ ของโลก นักลงทุน และผู้ผลิตอุปกรณ์ เข้าร่วมการประชุม เกิดขึ้นหลังการประชุมควอด (Quad) หรือกลุ่มต่อต้านอิทธิพลจีน ที่เพิ่งจัดประชุมกันไปเมื่อวันเสาร์ที่ 21 กันยายน 

นายเคิร์ต แคมป์เบลล์ (Kurt Campbell) ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุว่า ผู้นำ 4 ชาติในกลุ่มควอด ได้แก่ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สหรัฐ และอินเดีย ได้หารือถึงวิธีที่จะรักษาความพยายามในการที่จะสร้างซัพพลายเชนทางเลือก (นอกประเทศจีน) เอาไว้ 

โดยนายแคมป์เบลล์ชี้ให้เห็นว่า การปิดเหมืองแร่ในออสเตรเลีย ซึ่งมีเหมืองแร่นิกเกิลหลายเหมือง รวมถึงเหมืองของ นิกเกิล เวสต์ (Nickel West) ในเครือ บีเอชพี (BHP) ที่หยุดการดำเนินงานชั่วคราวเนื่องจากประสบปัญหาราคาตกต่ำ เป็นผลมาจากการควบคุมตลาดของผู้ผลิตในอินโดนีเซียที่จีนให้การสนับสนุน 

ADVERTISMENT

De-Risk ลดความเสี่ยงโปรเจ็กต์

“จากข้อเท็จจริงที่ว่า ในขณะนี้ ขีดความสามารถการผลิตของเหมืองในออสเตรเลียจำนวนมากเริ่มเข้าสู่ภาวะไม่มีการดำเนินงานโดยสิ้นเชิง หรืออย่างน้อยที่สุดก็เข้าสู่การหยุดพักการดำเนินงานชั่วคราวนี้ กำลังท้าทายเราอย่างยิ่ง” แคมป์เบลล์กล่าว และบอกอีกว่า ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนจะมีความสำคัญในการกระตุ้นการลงทุน 

หุ้นส่วนความมั่นคงทางแร่ออกแถลงการณ์ย้ำถึงความเข้มข้นหรือการกระจุกตัวของการสกัด การกลั่น และการแปรรูปแร่สำคัญระดับโลกในประเทศจีนหรือดำเนินการผ่านหน่วยงาน องค์กรที่จีนเป็นเจ้าของ และระบุว่า การครอบงำตลาดของจีนมีลักษณะเฉพาะที่โดดเด่น คือ ความไม่โปร่งใสและความล้มเหลวของตลาด ซึ่ง MSP ต้องการจะแก้ไขสภาพที่เป็นปัญหานี้

ADVERTISMENT

นายโฆเซ่ เฟอร์นานเดซ (Jose Fernandez) ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ายพัฒนาการเศรษกิจ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม ของสหรัฐ กล่าวว่า เครือข่ายการเงินนี้จะประสานการทำงานของรัฐบาล องค์กรรับประกันการส่งออก สถาบันการเงินเพื่อการพัฒนา และกองทุนการลงทุนภาครัฐ เพื่อระดมทุนและลดความเสี่ยงของโครงการเหมืองแร่ร่วมกัน ตลอดจนดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชน

ในสัปดาห์นี้ สหรัฐประกาศให้ทุนสำหรับบริษัทแร่สำคัญของออสเตรเลียที่ดำเนินงานบนแผ่นดินของอเมริกา อย่าง บริษัท อเมริกัน แรร์ เอิร์ธส์ (American Rare Earths) ของออสเตรเลียกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า บริษัทพร้อมสำหรับการกู้ยืมเงิน 456 ล้านดอลลาร์ หรือราว 15,000 ล้านบาทจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งสหรัฐอเมริกา (EXIM) สำหรับเป็นเงินทุนในการทำเหมืองในรัฐไวโอมิง

บริษัท แอนสัน รีซอร์สเซส (Anson Resources) ได้รับข้อเสนอที่ไม่มีข้อผูกมัดที่คล้ายกันนี้ โดยการให้เงินทุนกู้ยืมมูลค่า 330 ล้านดอลลาร์ หรือราว 10,800 ล้านบาท สำหรับโรงงานผลิตลิเทียมในรัฐยูทาห์ ในขณะเดียวกัน บริษัท เซาท์ 32 (South32) ในรัฐแอริโซนา และเอลเมินต์ 25 (Element 25) ในรัฐลุยเซียนาต่างก็ได้รับทุนสนับสนุนจากกระทรวงพลังงานสหรัฐ จำนวน 166 ล้านดอลลาร์หรือราว 5,400 ล้านบาท สำหรับดำเนินงานด้านการผลิตแมงกานีส 

ทั้งนี้ ชาติสมาชิกของ MSP มีจีพีดีรวมกันคิดเป็นสัดส่วนกว่า 50% ของจีดีพีโลก ก่อตั้งขึ้นในเดือนมิถุนายนปี 2022 มีวัตถุประสงค์เพื่อเร่งการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญให้มีความพร้อมใช้ มีความหลากหลาย และมีความมั่นคงสำหรับประเทศของตน ซึ่งสมาชิกได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา เอสโตเนีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น นอร์เวย์ เกาหลีใต้ สวีเดน สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป หรืออียู