อังกฤษกลายเป็นประเทศแรกในโลกที่อนุมัติการใช้ยาต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งพัฒนาโดย เมอร์ค แอนด์ ริดจ์แบ็ก ไบโอเทราพิวติกส์ ผู้ผลิตในสหรัฐ
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 อัลจาซีร่า รายงานว่า สำนักงานกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและยาของอังกฤษ (เอ็มเอชอาร์เอ) แนะนำให้ใช้ยาโมลนูพิราเวียร์โดยเร็วที่สุด หลังพบว่ามีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก และภายใน 5 วัน หลังจากเริ่มแสดงอาการ โดยอ้างข้อมูลทางคลินิก
โมลนูพิราเวียร์เป็นยาต้านไวรัสโควิดชนิดรับประทานตัวแรก ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการต่อสู้กับโรคระบาด คาดว่าหลังจากได้ไฟเขียวจากอังกฤษแล้ว สหรัฐอาจจะอนุมัติใช้เป็นประเทศต่อไป ทั้งนี้ คณะที่ปรึกษาของสหรัฐจะประชุมกันภายในเดือนนี้ เพื่อลงมติว่าควรอนุมัติใช้ยาตัวนี้หรือไม่
การรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วกว่า 5.2 ล้านคนทั่วโลก จนถึงขณะนี้มุ่งเน้นไปที่วัคซีนเป็นหลัก ขณะที่ตัวเลือกอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงยาต้านไวรัสเรมเดซิเวียร์ของกิลีด และยากลุ่มสเตอรอยด์ เดกซาเมทาโซน โดยทั่วไปมักให้กับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้วเท่านั้น
ยาโมลนูพิราเวียร์ของเมอร์ค ถูกจับตาอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่มีข้อมูลเผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้วว่ามันอาจลดโอกาสการเสียชีวิตหรือการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล สำหรับผู้ที่เสี่ยงจะมีอาการรุนแรง หากได้รับในช่วงต้นของการเจ็บป่วย
ยาซึ่งในอังกฤษใช้ชื่อว่าลาเจฟริโอ เป็นยาที่ทำให้กลไกของรหัสพันธุกรรม หรือ RNA ของเชื้อโควิดเกิดความผิดพลาด จนไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้ โดยผู้ป่วยต้องกินยานี้วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน
โมลนูพิราเวียร์ยังอยู่ระหว่างการศึกษาในการทดลองขั้นสุดท้าย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และจนถึงขณะนี้มีข้อมูลที่ชี้ว่ามันมีประสิทธิภาพในการต้านไวรัสโคโรน่าทุกสายพันธุ์ รวมถึงสายพันธุ์เดลต้าที่มีอัตราการติดเชื้อสูง
- “โมลนูพิราเวียร์” เทียบ “ฟาวิพิราเวียร์” ไทยจ่อนำเข้ารักษาผู้ป่วยโควิด
- หมอมนูญเผยข้อมูล โมลนูพิราเวียร์ ยาต้านโควิดชนิดเม็ดตัวแรก
- ผลการทดลองเผยยาเม็ด “โมลนูพิราเวียร์” ป้องกันป่วย-เสียชีวิตจากโควิดได้ 50%