ยักษ์ใหญ่ ริโอ ทินโต จากออสเตรเลีย เจอรัฐบาลเซอร์เบียล้มกระดานทำเหมือง หลังถูกประท้วงหนักจากกลุ่มสิ่งแวดล้อม สื่อโยง 2 ชาติเพิ่งพิพาทกัน จากเหตุออสซี่ขับโนวัก ยอโควิช นักเทนนิสซุปตาร์ ขวัญใจชาวเซิร์บ
วันที่ 21 มกราคม 2565 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า รัฐบาลเซอร์เบียปลดชนวนการประท้วงของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยการยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการเหมืองสำรวจแร่ลิเทียมของบริษัท ริโอ ทินโต ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจเหมืองของโลก สัญชาติออสเตรเลีย มูลค่า 2,400 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 8 หมื่นล้านบาท
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
“เราทำตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ประท้วงสิ่งแวดล้อมและยุติการดำเนินกิจการของริโอ ทินโตในสาธารณรัฐเซอร์เบียแล้ว” นายกรัฐมนตรีหญิง อานา เบอร์นาบิช ของเซอร์เบีย กล่าว และย้ำว่า “ทุกอย่างยุติลง มันจบแล้ว”
ด้านริโอ ทินโต แถลงว่า การตัดสินใจใดๆ ควรมาจากการหารือและเจรจาบนข้อเท็จจริง ทางบริษัทอุทิศให้กับการพัฒนาโครงการร่วมกับเซอร์เบีย และระเบียบข้อบังคับระหว่างประเทศ การที่รัฐบาลเซอร์เบียทำเช่นนี้ น่าวิตกอย่างยิ่ง และทางบริษัทจะดำเนินวิธีการทางกฎหมายต่อไป
ส่วนนายกฯหญิงเซอร์เบียโต้แย้งประเด็นนี้ว่า “เราไม่กลัวริโอ ทินโต เรามาอยู่ตรงนี้เพื่อประชาชนและประเทศชาติ ประชาชนควรทำอะไรก็ได้ที่คิดว่าสมควร และนี่เป็นการตัดสินใจขั้นสุดท้ายชองรัฐบาลสาธารณรัฐเซอร์เบีย”
สื่อ เดลีเมล์ ตั้งข้อสังเกตว่า กรณีพิพาทครั้งนี้ เกิดไล่หลังจากเหตุการณ์อื้ออึงทางการทูตระหว่างสองประเทศ เมื่อทางการออสเตรเลียเนรเทศ โนวัก ยอโควิช นักเทนนิสมือหนึ่งของโลก ชาวเซอร์เบีย เพราะไม่ฉีดวัคซีนโควิด ทั้งที่รัฐบาลเซอร์เบียทักท้วงแล้ว
ยอโควิชยังเป็นนักกีฬาดาวดังที่ประกาศตัวสนับสนุนการรณรงค์อากาศบริสุทธิ์ เมื่อเดือนธันวาคม ยังโพสต์คำบรรยายภาพผู้ประท้วงที่เผยแพร่ในแพลตฟอร์มกีฬา ชื่อเดอะ บริดจ์
นอกจากประเด็นยอโควิช รัฐบาลถูกมองว่ากำลังหาเสียงก่อนการเลือกตั้งทั่วไปเดือนเมษายนนี้ อีกทั้งเซอร์เบียยังแสดงตัวว่ามีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีนและรัสเซีย แม้ว่าอยู่ระหว่างการสมัครเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป จึงถูกจับตาว่าอาจต้องการส่งเหมืองลิเทียมให้จีนดำเนินการแทน
สำหรับบริษัทริโอ ทินโต มีประวัติการดำเนินกิจการเหมืองมานาน 150 ปี ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ ถูกกล่าวหาว่ากิจการเหมืองหลายแห่งทั้งคอร์รัปชั่น ทำลายสิ่งแวดล้อม ละเมิดสิทธิมนุษยชน
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงขยายกิจการเหมืองไปทั่วโลกเพื่อหาพลังงานสีเขียวเพิ่มขึ้น รวมถึงลิเทียมที่ใช้ในแบตเตอรีรถยนต์หรือพาหนะพลังงานไฟฟ้าอื่นๆ
ถ้าเหมืองดำเนินการที่เซอร์เบีย คาดว่าจะผลิตลิเทียมที่ไว้ใช้ทำแบตเตอรี 58,000 ตันต่อปี และจะทำให้เซอร์เบียเป็นผู้ครองเหมืองผลิตลิเทียมใหญ่ที่สุดในยุโรป
………..
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :