รัสเซียส่อเจอมาตรการคว่ำบาตรอะไร หลังรับรองเอกราชลูฮันสก์-โดเนตสก์

รถถังรัสเซียวิ่งอยู่ในโดเนสต์ (REUTERS/Alexander Ermochenko)

มหาอำนาจตะวันตกขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่รุนแรงต่อรัสเซีย เพื่อพยายามสกัดไม่ให้รัสเซียรุกรานยูเครน

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 บีบีซีรายงานว่า วุฒิสภาสหรัฐกำลังรวบรวมมาตรการที่เรียกว่า “มารดาแห่งการคว่ำบาตรทั้งหมด” (the mother of all sanctions) และ “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวว่า “วลาดีเมียร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซียไม่เคยเจอมาตรการคว่ำบาตร “แบบที่ผมสัญญาว่าจะทำนี้”

อย่างไรก็ตาม นักการทูตตะวันตกปฏิเสธที่จะให้ความชัดเจนเกี่ยวกับบทลงโทษที่เฉพาะเจาะจง เพื่อให้รัสเซียคาดเดาสถานการณ์ต่อไป

แล้วมาตรการคว่ำบาตรอะไรที่ชาติตะวันตกกำลังวางแผนจะใช้กับรัสเซีย ?

มาตรการทางการเงิน

มาตรการหนึ่งที่ถูกนำมาพิจารณาคือการตัดรัสเซียออกจากระบบที่เรียกว่า “สวิฟต์” (Swift) ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ปลอดภัยสำหรับการส่งข้อความระหว่างสถาบันการเงินระหว่างประเทศ ที่มีการใช้โดยสถาบันทางการเงินหลายพันแห่งในกว่า 200 ประเทศ

การตัดรัสเซียออกจากระบบดังกล่าวจะทำให้ธนาคารรัสเซียทำธุรกิจในต่างประเทศได้ยากมากขึ้น

มาตรการนี้เคยใช้กับอิหร่านเมื่อปี 2555 ทำให้อิหร่านสูญเสียรายได้จากน้ำมันมหาศาล ทั้งยังสูญเสียรายได้จากการค้าต่างประเทศจำนวนมาก

แต่การคว่ำบาตรดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะสหรัฐและเยอรมนี ซึ่งธนาคารของทั้งสองประเทศมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับสถาบันการเงินของรัสเซีย

ทำเนียบขาวเเผยว่า มาตรการนี้อาจไม่ถูกใช้ในทันทีเพื่อตอบโต้การรุกรานยูเครนของรัสเซีย

“ดาลีป ซิงห์” รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐกล่าวว่า “มันอาจจะไม่ใช่กรณีนี้ที่คุณจะได้เห็นการใช้มาตรการที่เกี่ยวกับสวิฟต์”

จำกัดการใช้สกุลเงินดอลลาร์

สหรัฐอาจแบนรัสเซียจากการทำธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐโดยหลักการแล้ว บริษัทของชาติตะวันตกใด ๆ ที่อนุญาตให้สถาบันรัสเซียทำธุรกิจกับดอลลาร์ จะต้องถูกลงโทษ

หมายความว่ารัสเซียจะถูกจำกัดความสามารถในการซื้อและขายทั่วโลกเป็นอย่างมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจรัสเซีย เนื่องจากการขายน้ำมันและก๊าซส่วนใหญ่ใช้สกุลเงินดอลลาร์

ตลาดตราสารหนี้

มหาอำนาจตะวันตกสามารถดำเนินการเพื่อสกัดกั้นการเข้าถึงตลาดตราสารหนี้ระหว่างประเทศของรัสเซีย

ก่อนหน้านี้ ความสามารถของสถาบันการเงินและธนาคารของชาติตะวันตกในการซื้อพันธบัตรรัสเซียนั้นถูกจำกัดอยู่แล้ว การใช้มาตรการนี้อาจเพิ่มความรัดกุมมากขึ้นอีก

มาตรการนี้จะกีดกัดรัสเซียในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จำเป็นต้องการเติบโตทางเศรษฐกิจ ต้นทุนการกู้ยืมของรัสเซียอาจสูงขึ้น และมูลค่าเงินรูเบิลอาจลดลง

อย่างไรก็ตาม รัสเซียได้เตรียมรับมือเรื่องนี้ด้วยการลดภาระหนี้ของนักลงทุนต่างชาติ

ปิดกั้นธนาคาร

สหรัฐสามารถขึ้นบัญชีดำธนาคารรัสเซียบางแห่ง ซึ่งทำให้แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ทุกคนในโลกจะสามารถทำธุรกิจกรรมกับธนาคารเหล่านั้น ทางการรัสเซียจะต้องช่วยเหลือธนาคารเหล่านี้ และทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และรายได้ที่กำลังลดลง

อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้จะส่งผลลบอย่างมากสำหรับนักลงทุนตะวันตก ซึ่งมีเงินอยู่ในธนาคารรัสเซียเหล่านั้น

ควบคุมการส่งออก

ชาติตะวันตกอาจจำกัดการส่งออกสินค้าสำคัญไปยังรัสเซีย ตัวอย่างเช่น สหรัฐอาจสั่งให้บริษัทต่าง ๆ หยุดขายสินค้าใด ๆ ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ไปยังรัสเซีย

สินค้าดังกล่าวอาจครอบคลุมถึงไมโครชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งใช้ในทุกอย่างตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงสมาร์ทโฟน เครื่องมือกลและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค

มาตรการนี้ไม่ได้เล็งเป้าหมายเฉพาะด้านการทหารหรือการบินและอวกาศของรัสเซียเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเศรษฐกิจทั้งหมดของรัสเซียด้วย

ข้อจำกัดด้านพลังงาน

เศรษฐกิจของรัสเซียต้องพึ่งพาการขายก๊าซและน้ำมันให้ต่างประเทศ การส่งออกเหล่านี้เป็นแหล่งรายได้มหาศาลสำหรับเครมลิน

ชาติตะวันตกอาจทำให้ประเทศและบริษัทต่าง ๆ ที่ซื้อน้ำมันจากบริษัทยักษ์พลังงานของรัสเซีย เจอข้อจำกัดทางกฎหมาย

สหรัฐอาจใช้การเจรจาทางการทูตเพื่อสกัดการดำเนินการของท่อส่งก๊าซใหม่ใต้ทะเลบอลติกที่ชื่อว่า “นอร์ด สตรีม 2” ที่ส่งพลังงานจากรัสเซียไปเยอรมนี โดยท่อส่งก๊าซนี้ได้สร้างขึ้นแล้ว แต่อยู่ระหว่างรอการอนุมัติด้านกฎระเบียบ

ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวว่า “ผมสัญญากับคุณว่า เราจะสามารถทำได้”

อย่างไรก็ตาม มาตรการที่จะใช้เพื่อจำกัดการใช้ก๊าซจากรัสเซีย อาจส่งผลให้ราคาพลังงานสูงขึ้นทั่วยุโรป ซึ่งส่วนใหญ่ต้องอาศัยพลังงานจากรัสเซีย

การคว่ำบาตรรายบุคคล

การคว่ำบาตรครั้งใหม่อาจพุ่งเป้าไปที่บุคคล ไม่เฉพาะทีมงานของปูติน แต่ยังรวมถึงตัวประธานาธิบดีปูตินเองด้วย

มาตรการนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับการลงโทษต่อการกระทำที่เป็นปรปักษ์ต่อยูเครน หรือการคุกคามอธิปไตยหรือบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน

การอายัดทรัพย์สินและการห้ามการเดินทางเป็นตัวเลือกที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด แต่การคว่ำบาตรลักษณะนี้มีผลบังคับใช้อยู่แล้ว และไม่ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของรัสเซียมากนัก

ความหวังของสหรัฐและมหาอำนาจยุโรปคือการที่ชนชั้นนำของรัสเซียจะกดดันปูติน หากพวกเขาไม่สามารถเข้าถึงความมั่งคั่งของตัวเองในต่างประเทศได้ และไม่สามารถให้การศึกษาแก่บุตรหลานที่เรียนอยู่ในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยในตะวันตก

มาตรการจากลอนดอน

อาจมีการคว่ำบาตรบางอย่างที่สามารถจำกัดความสามารถของบุคคลชาวรัสเซียในการลงทุนและอาศัยในลอนดอน

ด้วยจำนวนเงินของชาวรัสเซียที่มีอยู่ในธนาคารของอังกฤษ รวมถึงทรัพย์สินของพวกเขาในอังกฤษ จึงทำให้ลอนดอนได้รับการขนานนามว่า “ลอนดอนกราด”

รัฐบาลอังกฤษอ้างว่ากำลังจัดการกับปัญหานี้ด้วย “คำสั่งเกี่ยวกับความมั่งคั่งที่ไม่สามารถอธิบายได้” ซึ่งกำหนดให้ผู้คนต้องแจ้งที่มาของเงินตัวเอง

แต่มีเพียงไม่กี่คำสั่งเท่านั้นที่อังกฤษเคยใช้ องค์กรบางแห่งในสหรัฐจึงต้องการให้ทำเนียบขาวผลักดันอังกฤษให้หนักขึ้นในเรื่องนี้

ความยากลำบากสำหรับชาติตะวันตก

ประเทศตะวันตกได้จัดทำแผนสำหรับการประสานงานและคว่ำบาตรอย่างรุนแรง หากรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนอย่างเต็มกำลัง

แต่หากมันเป็นเพียงการรุกรานเพียงเล็กน้อย ตามคำพูดของ “โจ ไบเดน” หล่ะ ?

นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ว่ารัสเซียอาจรักษากองกำลังของตนรอบยูเครนเป็นเวลาหลายเดือน พร้อม ๆ กับการเปิดศึกโจมตีทางไซเบอร์เพื่อทำให้ยูเครนอ่อนแอ

นักการทูตสหรัฐและชาติยุโรปกล่าวว่า ชาติตะวันตกมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันน้อยลง ในการตอบสนองต่อสถานการณ์เหล่านี้

บางประเทศที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซีย เช่น ฮังการี อิตาลี และออสเตรีย อาจไม่เต็มใจที่จะดำเนินการคว่ำบาตรรัสเซีย เว้นแต่จะมีการโจมตีเต็มรูปแบบ

รัสเซียยังสามารถบรรเทาผลกระทบจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกด้วยการขอความช่วยเหลือจากจีนและพันธมิตรอื่น ๆ

สิ่งสำคัญที่สุดคือการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด มักมีต้นทุนที่สูงสำหรับผู้บังคับใช้มาตรการ อีกทั้งยังมีการเจรจาแลกเปลี่ยน ซึ่งไม่ใช่ทุกคนในตะวันตกที่จะเต็มใจยอมรับ