ยูเครนจะเข้าร่วมสหภาพยุโรปได้หรือไม่ ? หลังผู้นำลงนามสมัครเป็นสมาชิก

ยูเครนสมัครเข้าร่วมสหภาพยุโรป
Ukrainian Presidential Press Service/Handout via REUTERS

ประธานาธิบดียูเครนลงนามในใบสมัครเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปแล้ว แต่ยูเครนจะสามารถเข้าร่วมได้หรือไม่ ? ยังคงเป็นคำถามที่ทั่วโลกรอคอยคำตอบ 

วันที่ 1 มีนาคม 2565 สื่อต่างประเทศรายงานว่า “โวโลดีมีร์ เซเลนสกี” ประธานาธิบดียูเครน ได้ลงนามในใบสมัครเพื่อขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากก่อนหน้านั้นได้ขอให้อียูรีบรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก

ต่อไปนี้คือกระบวนการในการเข้าร่วมอียู ในขณะที่ผู้นำยุโรปต่างกำลังถกเถียงกันว่าจะรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกหรือไม่

ข้อมูลสำคัญ

เซเลนสกีลงนามในใบสมัครหลังจากเรียกร้องให้อียูรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก ภายใต้ขั้นตอนพิเศษใหม่ โดยเขาได้ขอร้องกับอียูผ่านวิดีโอเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

สำหรับประเทศที่จะเข้าร่วมอียูนั้น ขั้นตอนทั่วไปเริ่มจากการปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เช่น การจัดตั้งระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรี และการยอมรับกฎหมายของอียูรวมถึงค่าเงินยูโร จากนั้นจึงจะมีการเจรจาที่ใช้เวลายาวนาน ยกตัวอย่างกรณีโครเอเชีย ซึ่งเป็นสมาชิกล่าสุดของอียู บลูมเบิร์กตั้งข้อสังเกตว่าใช้เวลาถึง 10 ปีในการเข้าร่วมอียู

ประเทศสมาชิกทั้งหมดจะต้องอนุมัติให้ยูเครนเข้าร่วม ซึ่งอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ เพราะตามที่ “ชาร์ลส์ มิเชล” ประธานคณะมนตรียุโรป ให้สัมภาษณ์กับยูโรนิวส์ว่า มีความเห็นและความอ่อนไหวที่แตกต่างกันภายในอียู เกี่ยวกับการรับยูเครนเป็นสมาชิก”

ผู้นำสโลวาเกีย สโลวีเนีย และสาธารณรัฐเช็ก ได้ผลักดันให้อียูสร้าง “เส้นทางใหม่ทั้งหมด” ที่จะช่วยให้ยูเครนเข้าร่วมอียูได้อย่างรวดเร็ว แต่จนถึงขณะนี้ผู้นำอียูดูเหมือนจะยังไม่ดำเนินการ ขณะที่ “เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน” ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) กล่าวกับยูโรนิวส์เมื่อวันเสาร์ว่า “เราต้องการ (ยูเครน) ในอียู แต่กระบวนการเป็นสมาชิกจะเกิดขึ้นเมื่อเวลาล่วงไปแล้ว”

การเข้าร่วมอียูสามารถช่วยยูเครนในด้านการทหารได้ทันที เนื่องจากสมาชิกอียูผูกพันกันด้วยเงื่อนไขทางทหาร ซึ่งกำหนดให้ประเทศสมาชิกต้องช่วยเหลือกัน ในกรณีที่มีประเทศใดตกเป็นเหยื่อจากการรุกรานด้วยอาวุธในอาณาเขตของตน

การเข้าเป็นสมาชิกอียูจะเป็นประโยชน์ต่อยูเครนในแง่เศรษฐกิจและประโยชน์เพิ่มเติมอื่น ๆ เช่น ชาวยูเครนจะสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างเป็นอิสระทั่วทุกประเทศที่เป็นสมาชิกอียู พร้อมทั้งรับสิทธิที่หลากหลายในฐานะพลเมืองอียู

แม้อียู ที่เพิ่งดำเนินการเรื่องการสมัครของยูเครน ก็อาจได้รับประโยชน์เช่นกัน โดยอดีตผู้นำยุโรปหลายคนมองว่า การรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกจะเป็นเหมือนคำแถลงทางการเมืองที่ชัดเจน กล้าหาญ และมีความหมาย อีกทั้งยังเป็นการส่งข้อความไปถึงรัสเซียด้วย

สิ่งที่ต้องจับตา

เจ้าหน้าที่อาวุโสของอียูให้สัมภาษณ์รอยเตอร์สเมื่อวันจันทร์ว่า คณะมนตรียุโรปกำลังจะจัดการประชุมสุดยอดในวันที่ 10 และ 11 มีนาคม 2565 ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีการหารือเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกของยูเครน

สารสำคัญจากผู้นำยูเครน

“เรารู้สึกขอบคุณพันธมิตรของเราที่อยู่กับเรา เป้าหมายของเราคือการอยู่ร่วมกันกับชาวยุโรปทั้งหมด และที่สำคัญที่สุดคือต้องเท่าเทียมกัน” เซเลนสกีกล่าวในวิดีโอที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กของเขา และบอกด้วยว่า “ผมมั่นใจว่าสิ่งนี้ยุติธรรม ผมมั่นใจว่าเราสมควรได้รับมัน ผมมั่นใจว่าทั้งหมดนี้เป็นไปได้”

ภูมิหลังที่สำคัญ

การเข้าร่วมเป็นสมาชิกอียูเป็นเป้าหมายที่ยูเครนตั้งไว้นานแล้ว เซเลนสกีกล่าวกับโพลิติโคเมื่อปี 2563 ว่า “ชาวยูเครนต้องการอาศัยอยู่ในยุโรป ยูเครนพร้อมทำข้อตกลงกับอียู ซึ่งจะทำให้เกิดการค้าเสรีและการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

แต่รอยเตอร์สตั้งข้อสังเกตว่า ความพยายามในการเข้าร่วมอียูของยูเครนนั้นถูกขัดขวางจากรัสเซีย และก่อนหน้านี้ทางอียูเองก็พยายามหลบเลี่ยงการหารือเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้เป็นปฏิปักษ์กับรัสเซีย

ทั้งนี้ ความกังวลเรื่องปัญหากับรัสเซียเริ่มเป็นประเด็นที่ไม่สำคัญแล้ว เนื่องจากอียูและชาติตะวันตกพากันลงโทษรัสเซียกรณีบุกยูเครน โดยอียูได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรที่สำคัญต่อรัสเซีย ทั้งยังให้การสนับสนุนยูเครนผ่านมาตรการอื่น ๆ เช่น การจัดหาเงินทุนและการส่งมอบอาวุธให้ยูเครนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของอียู และการสั่งให้สมาชิกมอบที่พักพิงชั่วคราวให้กับผู้ลี้ภัยชาวยูเครนเป็นเวลาสูงสุด 3 ปี

อย่างไรก็ตาม รัสเซียได้โต้กลับอียูและการกระทำที่เป็นศัตรูนี้ โดยวิจารณ์ว่าการที่อียูมอบอาวุธให้ยูเครนนั้นเป็นสิ่งที่อันตราย และทำให้เกิดความไม่มั่นคง