โบอิ้ง 737 ไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ตก สะเทือนเที่ยวบินจีนส่อหยุดบริการทั้งประเทศ

ภาพ : Xinhua

บรรดาสายการบินจีนมีโบอิ้งรุ่น 737-800 ให้บริการรวมเกือบ 1,200 ลำ การตกของไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ ส่อเค้าสะเทือนต่ออุตสาหกรรมการบินจีนทั้งประเทศให้ยุติบริการ

วันที่ 22 มีนาคม 2565 บลูมเบิร์กรายงานว่า จากเหตุการณ์เที่ยวบินที่ MU 5735 ของสายการบินไชน่าอีสเทิร์แอร์ไลน์ ประสบเหตุตกในเขตปกครองตนเองมณฑลกว่างซีจ้วง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นเหตุทำให้มีผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตทั้ง 132 รายนั้น

ทันทีที่เกิดดังกล่าวส่งผลให้เที่ยวบินประมาณ 74% ของเที่ยวบินทั้งหมด 11,800 ไฟล์ตในจีน ถูกยกเลิกไปในวันนี้ ซึ่งรวมถึงเที่ยวบินส่วนใหญ่ระหว่างปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ ซึ่งถือเป็นเส้นทางการบินที่พลุกพล่านที่สุดของประเทศ ตามรายงานของเว็บไซต์รวบรวมข้อมูลการบิน VariFlight

ก่อนหน้านี้ในช่วงที่โควิดระบาดในจีน ส่งผลให้การเดินอากาศในประเทศได้รับผลกระทบ จนนำไปสู่อัตราการยกเลิกเที่ยวบินสูง

กระทั่งเกิดเหตุการณ์เที่ยวบิน MU 5735 ของสายการบินไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ ประสบเหตุตกดังกล่าว นับเป็นเครื่องบินตกที่มีผู้เสียชีวิตครั้งแรกในจีนตั้งแต่ปี 2553 ส่งผลให้อัตราการยกเลิกเที่ยวบินกลับมาเพิ่มสูงขึ้นเกือบเทียบเท่ากับช่วงโควิดในเวลาเพียงวันเดียว

รายงานระบุว่า ในแต่ละวันจะมีเที่ยวบินระหว่างเซี่ยงไฮ้ไปยังกรุงปักกิ่งราว 35 เที่ยวบินต่อวัน แต่กลับพบว่าในวันนี้ (22 มี.ค.) มีเพียง 5 เที่ยวบินที่ให้บริการในเส้นทางดังกล่าว โดยเป็นเที่ยวบินไฟล์ตเช้า 2 เที่ยวบิน และเที่ยวบิน 3 ไฟล์ตในช่วงเย็น ซึ่งทั้ง 5 เที่ยวบินนั้นพบว่าไม่ได้ใช่เครื่องรุ่น 737 ในการให้บริการในเที่ยวบินดังกล่าว

หลังเกิดเหตุตก หุ้นไชน่าอีสเทิร์นร่วงลงมากถึง 7.3% ในตลาดฮ่องกง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นของสายการบินซึ่งอยู่ในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ด้วยนั้นพบว่า เปิดตลาดหุ้นของไชน่าอีสเทิร์นร่วงมากถึง 9.3% หลังเปิดการซื้อขายในช่วงเช้าของวันนี้ ขณะที่หุ้นของโบอิ้งในวอลล์สตรีทร่วงลง 3.6% จากการซื้อขายช่วงวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ

737-800 รุ่นยอดนิยมครองตลาดการบินจีน

จากข้อมูลของบริษัทที่ปรึกษาด้านอุตสาหกรรมการบิน IBA Group พบว่า จีนเป็นประเทศที่มีเครื่องบินรุ่น 737 NG Series ให้บริการในจำนวนมากที่สุดของโลก อีกทั้งส่วนใหญ่ยังเป็นเครื่อง 737 ลำใหม่ที่ยังมีอายุการใช้งานไม่มากนัก

โดยข้อมูลจาก IBA Group ระบุว่า หากรวมทุกสายการบินในประเทศจีนแล้ว เครื่องโบอิ้งรุ่น 737 มีให้บริการในจีนถึง 1,200 ลำ แต่ละลำมีอายุการใช้งานเฉลี่ยที่ 5 ปี ซึ่งถือว่ายังเป็นเครื่องบินที่ยังไม่เก่าและยังคงสามารถให้บริการได้ หากมีการบำรุงรักษาที่ดีตามขั้นตอน

ทันทีที่เกิดเหตุเที่ยวบิน MU 5735 ประสบเหตุตก ทางสายการบินไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ ได้ห้ามบินเครื่อง 737-800 ที่มีในฝูงบินทั้งหมดราว 106 ลำ

ถือว่าไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์นับเป็นสายการบินจีนที่มีฝูงบิน 737 ในการให้บริการมากที่สุดสายการบินหนึ่งของจีน โดยสายการบินที่นิยมใช้เครื่อง 737 ให้บริการรองลงมาคือ สายการบินไหหนาน แอร์ไลน์ ส่วนแอร์ไชน่า สายการบินแห่งชาติของจีนที่รัฐบาลถือหุ้น 100% มีเครื่อง 737 ให้บริการ 97 ลำ

เส้นทางที่บรรดาสายการบินจีนนิยมใช้รุ่น 737-800 ให้บริการคือระหว่างเมืองฉงชิ่ง-เสิ่นเจิ้น โดยมีเที่ยวบินเฉลี่ยต่อปีราว 1,734 เที่ยวบิน เส้นทางรองลงมาคือ ปักกิ่ง-กวางโจวอยู่ที่ 1,426 เที่ยวบินและเส้นทางกวางโจว-ไหโข่ว 1,399 เที่ยวบินต่อปี

สำหรับเครื่องบินประสบเหตุครั้งนี้เป็นเครื่องโบอิ้ง 737 เที่ยวบิน MU5735 บินจากเมืองคุนหมิงสู่เมืองกว่างโจว ตกลงในพื้นที่ภูเขาใกล้หมู่บ้านโม่ล่าง อำเภอเถิงเซี่ยน เมืองอู๋โจวของกว่างซี เมื่อราว 14.38 น. ของวันจันทร์ที่ 21 มี.ค. ส่งผลให้เกิดไฟไหม้บนภูเขา

เว็บไซต์สำนักบริหารการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (CAAC) ระบุว่าเครื่องบินลำดังกล่าวมีผู้โดยสาร 123 คน และลูกเรือ 9 คน

ด้านสำนักดับเพลิงอู๋โจวจัดส่งนักดับเพลิง 117 คน และรถดับเพลิง 23 คัน เข้าสู่พื้นที่เกิดเหตุ รวมถึงมีการจัดส่งนักดับเพลิงจากพื้นที่อื่นของกว่างซีเข้าร่วมการกู้ภัยอีก 538 คน