เอ็มมานูเอล มาครง คว้าคะแนน 58.2% มีชัยเหนือมารี เลอ แปน ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสสมัยที่ 2
วันที่ 25 เมษายน 2565 สถานีโทรทัศน์ฟรานส์ 24 รายงานพิเศษผลการนับคะแนนจากการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบที่ 2 ซึ่งเป็นรอบตัดเชือกชิงชัยระหว่าง นายเอ็มมานูเอล มาครง กับนาง มารี เลอ แปน ผู้ท้าชิงจากพรรคฝ่ายขวา เนชั่นนอล ฟรอนต์ (FN)
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- ราคาทองวันนี้ (29 มี.ค. 67) พุ่งกระฉูด 600 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 39,050 บาท
- ยื่นภาษีปี 2567 หมดเขตเมื่อไหร่ ยื่นไม่ทันต้องทำอย่างไร
ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการหลังการปิดหีบลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปารีส ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง พรรค En March! คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปด้วยคะแนน 58.2% มีชัยเหนือนางเลอ แปน ผู้ท้าชิงคู่แข่งซึ่งได้คะแนนที่ 41.8% ส่งผลให้มาครง วัย 44 ปี สามารถรั้งตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ
การได้รับเลือกในสมัย 2 ของนายมาครง ถือเป็นครั้งแรกในประวัติการณ์กว่า 2 ทศวรรษที่ประธานาธิบดีคนเดิมสามารถรั้งตำแหน่งในสมัยที่ 2 ไว้ได้ โดยผู้นำฝรั่งเศสคนก่อนหน้ามาครงที่รั้งตำแหน่ง 2 สมัย คือนายฌัก ชีรัก จากการเลือกตั้งเมื่อปี 1995 และ 2002
หลังผลคะแนนของนายมาครงเริ่มทิ้งห่าง นางเลอ แปน ได้แถลงยอมรับความพ่ายแพ้ต่อผลการเลือกตั้ง ทั้งขอบคุณกลุ่มผู้สนับสนุน โดยเธอประกาศว่าแม้จะไม่ได้รับเลือกเป็นผู้นำหญิงคนแรกของประเทศ ทว่า เธอยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนและสนับสนุนแนวคิดเพื่อคนฝรั่งเศสต่อไปในอนาคต เธอยังแสดงความขอบคุณต่อฐานเสียงของเธอโดยเฉพาะในแถบชนบท และในดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส
“ฝรั่งเศสนี้ลืมเกินไป เราไม่ลืม” เธอเสริมว่า เธอและพรรคเธอเตรียมเปิดตัว “การต่อสู้ครั้งใหญ่เพื่อการเลือกตั้งสภานิติบัญญัติ” ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้ต่อไป
สำหรับนายมาครงกับนางเลอ แปน โคจรมาเป็นคู่แข่งคู่ชิงทางการเมืองอีกครั้ง หลังจากศึกเลือกตั้งฝรั่งเศสเมื่อปี 2017 ที่เคยเป็นคู่แข่งกันมา ซึ่งมาครงเฉือนชนะด้วยผลคะแนนโหวต 66.1% ต่อ 33.90% ซึ่งถือว่าจากผลการนับคะแนนรอบนี้ นายมาครงได้รับคะแนนเสียงลดลง ขณะที่ฝ่ายเลอ แปน ได้รับคะแนนเสียงเพิ่มขึ้นหากเทียบกับผลการเลือกตั้งครั้งก่อน