ราคาน้ำมันปาล์มพุ่ง หลังอินโดฯสั่งระงับส่งออก หวั่นดันเงินเฟ้อทะยาน

น้ำมันปาล์ม
Photo by WAHYUDI / AFP

ราคาน้ำมันปาล์มพุ่งขึ้น หลังจากอินโดฯประกาศระงับการส่งออกน้ำมันปรุงอาหารทั้งหมด หวั่นยิ่งกระทบเงินเฟ้อทั่วโลก

วันที่ 25 เมษายน 2565 บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาส่งมอบน้ำมันปาร์มล่วงหน้าที่ตลาดซื้อขายในกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม พุ่งขึ้น 6% แตะที่ระดับ 6,738 ริงกิต (1,550 ดอลลาร์) ต่อตัน ซึ่งนับเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม

ราคาที่สูงขึ้นสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศระงับการส่งออกน้ำมันปรุงอาหารทั้งหมด ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้ออันเนื่องมาจากการพุ่งขึ้นของราคาอาหารทั่วโลก โดยอินโดฯซึ่งเป็นชาติผู้ผลิตและส่งออกปาร์มน้ำมันรายใหญ่ของโลก คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 60% ของการผลิตทั่วโลก ประกาศว่าระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน เป็นต้นไป จนกว่ารัฐบาลจะลงความเห็นว่า ปัญหาการขาดแคลนน้ำมันปรุงอาหารในประเทศได้รับการแก้ไขแล้ว

ความเคลื่อนไหวของอินโดนีเซียเป็นไปตามแนวโน้มที่หลายประเทศทั่วโลกหันมาใช้มาตรการคุ้มครองพืชผลนับตั้งแต่สงครามยูเครนปะทุ ทั้งนี้ คาดว่าการที่อินโดนีเซียระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มจะส่งผลให้ภาวะเงินเฟ้อทั่วโลกรุนแรงขึ้นอันเนื่องมาจากการพุ่งขึ้นของราคาอาหาร และเพิ่มความเสี่ยงว่าจะเกิดวิกฤตความอดอยากเต็มรูปแบบ

นายอวตาร ซานดู จากบริษัทฟิลลิป โนวา กล่าวว่า “การระงับส่งออกน้ำมันปรุงอาหารและวัตถุดิบที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์ตั้งแต่เค้กไปจนถึงเครื่องสำอางนั้น อาจเพิ่มต้นทุนให้กับผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูปทั่วโลก”

ความเคลื่อนไหวที่น่าประหลาดใจครั้งนี้ “ทิ้งคำถามที่ไม่มีคำตอบไว้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงที่น้ำมันที่บริโภคได้อื่น ๆ เช่น ซัพพลายน้ำมันดอกทานตะวัน กำลังเผชิญกับปัญหาอันเนื่องมาจากความรุนแรงในภูมิภาคทะเลดำ” ซานดู ทิ้งท้าย