จีนหั่นดอกเบี้ย ‘บ้านหลังแรก’ หวังปลุกกำลังซื้อภาคอสังหาริมทรัพย์

จีนหั่นดอกเบี้ย ‘บ้านหลังแรก’

อสังหาริมทรัพย์จีนซบเซาอย่างต่อเนื่อง จากการปราบปรามการเก็งกำไรอย่างดุเดือดของรัฐบาลจีน และวิกฤตสภาพคล่องที่เกิดขึ้นกับอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศ อย่าง “เอเวอร์แกรนด์” แต่ความสำคัญของภาคอสังหาฯที่มีสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของจีดีพีจีน ทำให้รัฐบาลจีนต้องเร่งใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ภาคอสังหาฯกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศปรับนโยบายดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เมื่อ 15 พ.ค. 2565 เพื่อกระตุ้นการเติบโตของตลาดอสังหาฯในประเทศ

ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับ “ผู้ซื้อบ้านหลังแรก” ซึ่งเป็นรูปแบบอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ชั้นดี (LPR) ที่มีระยะเวลา 5 ปีขึ้นไป จากอัตราดอกเบี้ย 4.60% เป็น 4.40% ขณะที่
ดอกเบี้ยสำหรับการกู้ซื้อที่อยู่อาศัยแห่งที่สองขึ้นไปจะยังคงอยู่ในอัตราเดิม

แม้ว่าการปรับดอกเบี้ยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยดังกล่าวจะมีเป้าหมายกระตุ้นตลาดอสังหาฯ แต่ยังคงอยู่บนพื้นฐานของมาตรการปราบปรามการเก็งกำไรของรัฐบาล ตามข้อความที่ระบุในแถลงการณ์ของธนาคารกลางจีนว่า “บ้านมีไว้สำหรับการอยู่อาศัย ไม่ใช่เพื่อการเก็งกำไร” ซึ่งการปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้จะเป็นการส่งเสริมการเติบโตที่ดีและมั่นคงของตลาดอสังหาริมทรัพย์จีน

นโยบายของธนาคารกลางจีนดังกล่าวจะเป็นแนวทางให้รัฐบาลท้องถิ่นและธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศปรับลดอัตราดอกเบี้ยและกำหนดแนวทางที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากความต้องการของตลาดอสังหาฯในแต่ละพื้นที่ รวมถึงสถานการณ์ของธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

“เหยียน เยว่จิน” ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอี-เฮ้าส์ ไชน่า ระบุว่า นโยบายต่าง ๆ ของทางการจีน อย่างการลดเงินดาวน์ การลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ การคลายข้อจำกัดการขายบ้านมือสอง และลดข้อจำกัดในการซื้อที่อยู่อาศัย จะช่วยสร้างเงื่อนไขที่ดีที่ทำให้ธุรกรรมในตลาดอสังหาฯกลับมาคึกคักมากขึ้นได้ในช่วงปลายเดือน พ.ค.นี้ และหลังจากนั้น

ทั้งนี้ ตลาดอสังหาฯจีนซบเซาอย่างต่อเนื่องจากวิกฤตต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ รวมถึงการกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่ เพื่อควบคุมโควิด-19 ที่กลับมาแพร่ระบาดรุนแรงอีกครั้ง ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ กลายเป็นปัจจัยที่ทำให้ยอดขายอสังหาฯตกต่ำ ขณะที่ธนาคารก็ควบคุมการปล่อยสินเชื่อเข้มงวดมากขึ้น

บลูมเบิร์กรายงานว่าข้อมูลธนาคารกลางจีนแสดงให้เห็นว่า มูลค่าการปล่อยสินเชื่อภาคครัวเรือนเพื่อการบริโภคของจีนลดลงต่ำสุดในรอบ 4 ปีเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่หดตัวถึง 60,500 ล้านหยวน

ขณะที่ยอดขายที่อยู่อาศัยของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ 100 อันดับแรกของจีนก็ลดลงราว 50% ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ แม้ว่าบางบริษัท อย่าง “คันทรี่ การ์เด้น โฮลดิงส์” และ “ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ” จะเสนอส่วนลดสูงสุดถึง 45% ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ด้วยความหวังที่จะกระตุ้นยอดขาย

“แอนดี ลี” ซีอีโอของเซ็นทัลไลน์ พร็อพเพอร์ตี้ เอเยนซี่ บริษัทโบรกเกอร์อสังหาฯรายใหญ่ในฮ่องกง ระบุว่า “ความต้องการซื้อบ้านได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของจีนในขณะนี้ สิ่งที่ผู้คนกังวลคือความมั่นคงของงานและความสามารถในการชำระหนี้ แม้ว่าธนาคารจะลดอัตราดอกเบี้ยหรือบริษัทอสังหาฯจะเสนอส่วนลด แต่ก็อาจไม่สามารถกระตุ้นความต้องการซื้อได้มากนัก”