ถอดบทเรียน Airbnb ยกธงขาว ถอนธุรกิจในจีน

Airbnb

มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มข้น หรือ “ซีโร่โควิด” ของรัฐบาลจีน ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการในจีน จากการที่นักท่องเที่ยวยังคงไม่สามารถเดินทางเข้าไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้และกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้ภาคธุรกิจต่างชาติต้องทบทวนการดำเนินงานในจีน

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า “แอร์บีเอ็นบี” (Airbnb) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเช่าที่พักระดับโลก ประกาศเตรียมยุติการดำเนินธุรกิจในจีน ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. 2022 เป็นต้นไป โดยจะหยุดให้การบริการจองที่พักทั้งหมดในจีนแผ่นดินใหญ่บนแพลตฟอร์มของแอร์บีเอ็นบี

การถอนตัวออกจากจีนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่รายรับในตลาดจีนสัดส่วนไม่ถึง 1% ของรายได้รวมของแอร์บีเอ็นบี ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่รุนแรงเป็นระลอกในจีน ซึ่งส่งผลให้มีการใช้มาตรการควบคุมโรคระบาดอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการจำกัดการเดินทางข้ามพรมแดนที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวอย่างรุนแรง

ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่า แอร์บีเอ็นบีเริ่มให้บริการในจีนแผ่นดินใหญ่ครั้งแรกในปี 2016 ก่อนที่ในปีต่อมาจะร่วมมือกับผู้ให้บริการท้องถิ่นของจีน และรีแบรนดแพลตฟอร์มที่ให้บริการในจีน ในชื่อ “อ้ายปี่อิ๋ง” (Aibiying) เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าจีนโดยเฉพาะ

แต่แอร์บีเอ็นบีก็ต้องเผชิญกับคู่แข่งหลายรายในตลาดจีน ทั้งแพลตฟอร์มจีนอย่าง เสี่ยวจู (Xiaozhu) ถูเจีย (Tujia) และเหม่ยถวน โฮมสเตย์ (Meituan Homestay) ที่เปิดตัวบริการเช่าที่พักกันอย่างคึกคักในจีน รวมถึงคู่แข่งสำคัญอย่าง ทริปดอตคอม (Trip.com) ที่เปิดตัวแพลตฟอร์ม “ซีทริป” (Ctrip) ที่มุ่งเน้นให้บริการในจีนโดยตรงเช่นกัน

การแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือด โดยผู้ให้บริการจีนหลายรายนำเสนอบริการที่ครอบคลุม ตั้งแต่การเข้าไปช่วยออกแบบตกแต่งและปรับปรุงระบบบริหารจัดการธุรกิจให้กับเจ้าของที่พัก ขณะที่แพลตฟอร์มรายใหญ่อย่าง “ซีทริป” ยังมีการทำการตลาดที่มากไปกว่าจองที่พัก อย่างบริการจองตั๋วโดยสารและซื้อแพ็กเกจทัวร์

นอกจากนี้ แพลตฟอร์มจีนยังสามารถเข้าถึงผู้ให้บริการที่พักในประเทศได้มากกว่า ข้อมูลการสำรวจของมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ในออสเตรเลียพบว่า ในปี 2020 มีจำนวนที่พักในจีนที่เข้าร่วมให้บริการกับแอร์บีเอ็นบี ประมาณ 150,000 แห่ง ซึ่งค่อนข้างน้อยหากเทียบกับจำนวนที่พักที่ให้บริการในแพลตฟอร์มถูเจีย ซึ่งมากถึง 1.2 ล้านแห่งทั่วประเทศจีน

ขณะเดียวกันธุรกิจทั่วโลกของแอร์บีเอ็นบีก็ได้รับผลกระทบค่อนข้างหนักในช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 ทวีความรุนแรงทั่วโลก รายงานข่าวของซีเอ็นบีซีระบุว่า แอร์บีเอ็นบีต้องลดจำนวนพนักงานลงถึง 25% ในช่วง พ.ค. 2020 หลังจากที่รายได้หดตัวจากการหยุดชะงักของการเดินทางทั่วโลก

แม้ว่าแอร์บีเอ็นบีจะยุติการให้บริการจองที่พักในจีนแผ่นดินใหญ่ แต่จะยังคงมีสำนักงาน “แอร์บีเอ็นบี ไชน่า” ในกรุงปักกิ่งเช่นเดิม เพื่อรองรับเป้าหมายของบริษัทหลังจากนี้ที่มุ่งเน้นไปที่การให้บริการนักท่องเที่ยวจีนขาออกเป็นหลัก เมื่อจีนกลับมาเปิดการเดินทางข้ามพรมแดนอีกครั้ง

“นาธาน เบลชาร์คซิค” ผู้ร่วมก่อตั้งแอร์บีเอ็นบี ระบุในแถลงการณ์ว่า “เรายังคงหวงแหนตลาดจีนและยังเชื่อมั่นว่าผู้ใช้บริการชาวจีน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 5 ของจำนวนประชากรโลก เป็นส่วนสำคัญของเครือข่ายการให้บริการทั่วโลกของเรา”

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันจีนยังควบคุมการเดินทางข้ามพรมแดนอย่างเข้มงวด แม้จะมีการอนุญาตให้ชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศได้ในบางกรณี แต่การเดินทางกลับเข้าสู่ประเทศจีนยังคงต้องกักตัวเป็นเวลานานสูงสุดถึง 4 สัปดาห์ ขณะที่การเดินทางภายในประเทศก็ยังติดข้อจำกัดจากมาตรการล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่