![เลย์ออฟ1](https://www.prachachat.net/wp-content/uploads/2023/01/เลย์ออฟ1-183-728x485.jpg)
คอลัมน์ : Tech Times ผู้เขียน : มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ
ท่ามกลางมหกรรม “เลย์ออฟ” ขนานใหญ่ มีบิ๊กเทคอยู่รายหนึ่งที่ (ยัง) ยืนโต้กระแส ไม่ไล่พนักงานออกเหมือนรายอื่น
Apple คือ บิ๊กเทครายนั้น ที่จนถึงวันนี้ (26 ม.ค.) พนักงานยังไม่ต้องรอรับซองขาวเหมือนเพื่อน ๆ ในบริษัทอื่น
หากนับหัวพนักงานที่เป็นเหยื่อของการเลย์ออฟ ในช่วงไม่กี่เดือนนี้ น่าจะมีไม่น้อยกว่า 40,000 คน
นำเทรนด์โดย Twitter ที่ประกาศเอาพนักงานออกจำนวนมากตั้งแต่เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา และทวีความรุนแรงขึ้น หลัง อีลอน มัสก์ ประกาศกำจัดพนักงานรวดเดียวครึ่งบริษัทหลังเทกโอเวอร์ไม่กี่วัน
ตามมาด้วย Meta และ Amazon ที่ประกาศเลย์ออฟ พนักงานอีกบริษัทละประมาณ 10,000 คน ส่วน Alphabet ก็ไม่พลาด จัดไปอีก 12,000 อัตรา ในขณะที่ Salfeforce มีแววจะเอาคนออกอีกเหนาะ ๆ 7,000 คนในเดือนหน้า
ตอนนี้หลายคนเลยสงสัยว่า Apple มีดีอะไรถึงยังคงยืนหยัดท้าทายอย่างโดดเด่น และปล่อยให้บิ๊กเทครายอื่นแจกซองขาวมือเป็นระวิง เผื่อเศรษฐกิจถดถอย จะได้ไม่เจ็บตัวมาก
สื่อหลายสำนักทั้ง CNN, CNBC และ Techcrunch เห็นไปในทางเดียวกันถึงสาเหตุที่ Apple ยังอยู่รอดปลอดภัยน่าจะมาจากการที่บริษัทไม่โหมจ้างพนักงานเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนบิ๊กเทครายอื่น
และจากสถิติที่รวบรวมโดย Macrotends ยังชี้ให้เห็นตัวเลขการจ้างงานมโหฬารของบิ๊กเทคหลายรายที่พากันโหมเพิ่มกำลังคนหลังบริการออนไลน์เติบโตมหาศาลช่วงล็อกดาวน์
โดยระหว่างปี 2020-2021 พบว่า Amazon มีการจ้างพนักงานเพิ่มถึง 8 แสนคน ทำให้มีพนักงานทั้งหมดกว่า 1.5 ล้านคนทั่วโลก ส่วน Alphabet เพิ่ม 52,000 มีพนักงานทั้งหมด 187,000 คน Meta เพิ่ม 27,000 มีพนักงานทั้งหมด 87,000 และ Microsoft เพิ่ม 58,000 มีพนักงานทั้งหมด 221,000 คน
แต่พอเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวในปี 2022 และยอดขายเริ่มไม่เป็นไปตามคาด บิ๊กเทคเหล่านี้ย่อมถูกกดดันให้ต้องรัดเข็มขัดอย่างหนัก ซึ่งหนึ่งในวิธีที่บริษัทใหญ่ ๆ นิยมทำเพื่อลดต้นทุน ก็คือการเอาคนออกนั่นเอง จึงนำมาสู่การเลย์ออฟ กันไม่เว้นแต่ละวันอย่างที่เห็นกันในตอนนี้
ในขณะที่ Apple มีการเพิ่มคนแค่ 17,000 คน ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนพนักงานทั้งหมดที่ 164,000 คน ทำให้สื่อคาดว่า นี่น่าจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ Apple ยังยืนหยัดอยู่ได้โดยไม่มี mass layoff และมีเพียงเอาออกบ้างประปรายราว 100 คน ในเดือน ส.ค. ก่อนประกาศชะลอการรับคนในเดือน พ.ย.ปีที่แล้ว
หากดูจากประวัติของบริษัท Apple เคยเอาคนออกครั้งใหญ่เมื่อปี 1997 ในช่วงที่ สตีฟ จ็อบส์ ต้องเอาคนออก ราว 4,000 คน หลังจากประสบกับภาวะขาดทุนอย่างหนัก
หลังจากนั้นมา Apple ก็ยังไม่เคยต้องเลย์ออฟอีกเลย ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า นอกจากการไม่ผลีผลามขยายฐานพนักงานแล้ว Apple ยังค่อนข้าง “เขียม” ในการปรนเปรอพนักงาน ทั้งช่วงก่อนโควิด และระหว่าง work from home เลยทำให้คุมค่าใช้จ่ายได้ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับบิ๊กเทครายอื่นอย่าง Google ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นสายเปย์ โดยในออฟฟิศจะมีทั้งห้องเล่นเกม และอาหารฟรีครบครัน พอมาถึงช่วง WFH ก็จัดคอร์สเรียนทำอาหารฟรีออนไลน์ พร้อมแจกเงินให้คนละ 1,000 เหรียญ ไปซื้ออุปกรณ์สำหรับทำงานที่บ้านให้อีก
แต่ขณะเดียวกันพนักงาน Apple ก็ยังไม่อาจวางใจได้ 100% เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้นาทีนี้
จะหมู่หรือจ่าก็ต้องรอวัดใจในวันประกาศผลประกอบการที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 ก.พ.ที่จะถึงนี้
เมื่อถึงวันนั้น เราน่าจะเห็นทิศทางของ Apple ที่ชัดเจนขึ้นว่าต้องเอาคนออกมั้ย หรือว่าการขยายฐานพนักงานอย่างมีสติและการไม่ใช้จ่ายพร่ำเพรื่อ จะส่งผลให้พนักงานแคล้วคลาดจากการตกงานได้จริงแท้แค่ไหนก็ต้องรอลุ้นกันชนิดห้ามกะพริบตา