ซอฟต์พาวเวอร์ไทย

คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ

ซอฟต์พาวเวอร์ (soft power) หรืออำนาจละมุน กลายมาเป็นวลีฮิต หลังจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขึ้นมาบริหารประเทศ นักวิชาการได้ให้คำอธิบายซอฟต์พาวเวอร์ไว้หลากหลาย อาทิ ความสามารถในการจูงใจให้ผู้อื่นเปลี่ยนพฤติกรรม ยอมรับ คล้อยตาม อย่างเต็มใจ โดยที่ไม่มีการบังคับ

มีประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่ว่า การเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยการใช้วิธีดึงดูดต่อผู้อื่น ยกตัวอย่างความสำเร็จที่เห็นเป็นรูปธรรม ได้แก่ เกาหลีใต้ที่บ่มเพาะ pop culture ในอุตสาหกรรมบันเทิง ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลมากว่า 24 ปี จน pop culture กลายเป็นส่วนหนึ่งของการส่งผ่านวัฒนธรรมสมัยใหม่ ทั้งการกิน การอยู่ การใช้ชีวิต การแต่งกายให้กับผู้คนทั่วโลก รวมทั้งไทยที่โอบรับ pop culture แบบเกาหลีเข้าไว้ด้วย

ขณะที่พรรคเพื่อไทยเองก็ได้หยิบยกเอาเรื่องของซอฟต์พาวเวอร์มาใช้เป็นนโยบายหาเสียง ไม่ว่าจะเป็น 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ หรือ OFOS ด้วยการมุ่งหวังที่จะใช้ “วัฒนธรรมไทย” ซึ่งเป็นภูมิปัญญาเป็นเครื่องมือในการสร้างซอฟต์พาวเวอร์ ที่ดูเหมือนว่าจะมีกระบวนการแปรเปลี่ยนให้เป็นพลังเพื่อมูลค่าทางเศรษฐกิจ

               

ด้วยการผ่าน 3 ขั้นตอนสำคัญ ได้แก่ ต้นทุนทางวัฒนธรรมที่มี creative innovation และ story สิ่งที่เรียกว่าคุณค่าทางการเมือง อาทิ การแก้ไข กม.ที่เป็นอุปสรรค เพื่อปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ และนโยบายต่างประเทศที่จะส่งออกซอฟต์เพาวเวอร์ของไทย

โดยกระบวนการเหล่านี้ถูกขับเคลื่อนผ่านทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พร้อมกับการดีไซน์หน่วยงานขึ้นมาใหม่อีกหน่วยงานหนึ่ง ผ่านทาง พ.ร.บ.ที่จะใช้ชื่อว่า THACCA หรือ Thailand Creative Content Agency ที่มีงบประมาณสนับสนุนปีละหมื่นล้านบาท

เพื่อมาพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ 12 อุตสาหกรรม ผ่านทางคณะอนุกรรมการ 12 คณะ ได้แก่ แฟชั่น, หนังสือ, ภาพยนตร์, ละครและซีรีส์, เฟสติวัล, อาหาร, ออกแบบ, ท่องเที่ยว, เกม, ดนตรี, ศิลปะ และกีฬา

ซึ่งคณะอนุกรรมการเหล่านี้ นอกเหนือไปจากภาคราชการแล้ว ยังมีกรรมการประกอบไปด้วยภาคเอกชนในอุตสาหกรรมนั้น ๆ โดยการนำซอฟต์พาวเวอร์ไทยไปสู่ตลาดโลก จะดำเนินการผ่านทางสถานทูตไทย และภาคเอกชนโดยตรง ให้รุกไปสู่ตลาดโลกผ่านทางสถานทูตไทยและภาคอุตสาหกรรม

กลายเป็นโมเดลไปสู่ความสำเร็จของซอฟต์พาวเวอร์ไทยที่ถูกชี้นำโดยรัฐบาล ด้วยการกำหนดกฎเกณฑ์ตีตราเป็นซอฟต์พาวเวอร์เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจต่อไป