อว.หนุนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ดันอุตสาหกรรม 11 สาขาสู่ตลาดโลก 

soft power ภาพจากกระทรวง อว
เครดิตภาพ : กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

กระทรวง อว.หนุนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ผลักดันอุตสาหกรรม 11 สาขาสู่ตลาดโลก ตั้งเป้าพัฒนา 20 ล้านคน ผ่านเครือข่ายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ 

วันที่ 5 ตุลาคม 2566 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวง อว. สนับสนุนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาล ซึ่งมีการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ตั้งเป้าพัฒนาแรงงานทักษะสูง และพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ในสาขาต่าง ๆ 11 สาขาสู่ตลาดโลก เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยขึ้นเป็นผู้นำซอฟต์พาวเวอร์ของโลก

ทั้งนี้ กระทรวง อว.สามารถเข้าไปสนับสนุนใน 3 ส่วนสำคัญคือ 1.การพัฒนากำลังคนให้มีทักษะสูงขึ้น 2.การใช้ข้อมูลทางวิชาการเสริมในประเด็นสำคัญเพื่อให้ซอฟต์พาวเวอร์ไทยได้รับความเชื่อถือในระดับโลก และ 3.การจัดโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ใน 11 สาขา

ซึ่งทั้ง 11 สาขาประกอบด้วย 1.อาหาร 2.กีฬา 3.งานเทศกาล 4.ท่องเที่ยว​ 5.ดนตรี​ 6.หนังสือ​ 7.ภาพยนตร์​ 8.เกม​ 9.ศิลปะ​ 10.การออกแบบ​ 11.แฟชั่น​

“กระทรวง อว.มีความพร้อมอยู่แล้วทั้งมหาวิทยาลัย และหน่วยงานวิจัยซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ ที่สามารถนำมาสนับสนุนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ได้ทันที”

พัฒนากำลังคน 20 ล้านคน

นางสาวศุภมาสกล่าวต่อว่า ในส่วนการพัฒนากำลังคน ซึ่งรัฐบาลมีเป้าหมายจะพัฒนากำลังคนถึง 20 ล้านคน โดยในปีแรกจำนวน 1 ล้านคน อว.มีกลไกการเพิ่มทักษะ หรือ Upskill-Reskill ซึ่งจะเน้นการยกระดับทักษะคนไทยให้เป็นแรงงานทักษะสูง โดยใช้มหาวิทยาลัย 150 แห่งทั่วประเทศ ทำได้ในทุกพื้นที่ ร่วมกับศูนย์บ่มเพาะและเครือข่ายอาชีวะ เชื่อมโยงกับการรับรองมาตรฐานทักษะและธนาคารหน่วยกิต

ADVERTISMENT

รวมทั้งมหาวิทยาลัยหลักที่มีหลักสูตรทางด้านนี้อยู่แล้ว สามารถจะต่อยอด สอนในทักษะที่สูงขึ้นอีก ในปัจจุบันมหาวิทยาลัยต่าง ๆ มีหลักสูตรแล้ว 871 หลักสูตร สามารถผลิตคนด้านนี้ได้ประมาณปีละ 40,000 คน โดยเมื่อได้รับทราบความต้องการของซอฟต์พาวเวอร์ แต่ละสาขาทั้ง 11 ด้านแล้ว อว.ก็จะเร่งให้มหาวิทยาลัยไปปรับเพิ่มเติมอีกให้ตรงกับโจทย์และความต้องการ

ศุภมาส รมว.อว

ADVERTISMENT

“อว.ยังสามารถจะช่วยยกระดับข้อมูลซอฟต์พาวเวอร์ไทยให้มีความน่าเชื่อถือในระดับโลกโดยใช้ข้อมูลทางวิชาการ เพราะในปัจจุบันข้อมูลของไทยยังกระจัดกระจาย ส่วนใหญ่ใช้วิธีบอกกันปากต่อปาก หลายด้านยังขาดข้อมูลสนับสนุน

ดังนั้น การมีข้อมูลทางวิชาการที่ทุกคนยอมรับมาสนับสนุนอย่างชัดเจน ก็จะเพิ่มความน่าเชื่อถือได้ในระดับโลก ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าของซอฟต์พาวเวอร์ไทยขึ้นอีกมาก ที่ผ่านมา อว.โดยธัชชาและเครือข่ายได้มีโครงการสำคัญ เช่น การพิสูจน์อายุของโบราณสถานอย่างแม่นยำโดยวิทยาศาสตร์ชั้นสูง การพิสูจน์เอกลักษณ์ของสีโบราณไทย ฐานข้อมูลช่างศิลป์ท้องถิ่น เป็นต้น

เมื่อทราบความต้องการที่ชัดเจนแล้ว อว.สามารถปรับการวิจัย และวิชาการของมหาวิทยาลัยให้ตรงตามโจทย์ของผู้ใช้ได้ เช่น การพิสูจน์ประสิทธิภาพในการป้องกันโรคของอาหารไทย ประโยชน์ต่อการส่งเสริมกล้ามเนื้อของมวยไทย ผลต่อสุขภาพหัวใจ, การออกมาตรฐานสมุนไพรไทย, การวิจัยระบบการจัดการน้ำและสิ่งแวดล้อมของแหล่งโบราณคดีไทย ข้อมูลพื้นที่ความละเอียดสูง หรือระบบการแปลภาษาโดยใช้เอไอ เป็นต้น แล้วประมวลผลที่ได้ให้นำเสนอในเวทีวิชาการระดับโลกเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นสินค้าและบริการของไทย

นอกจากนี้ ยังมีฐานข้อมูลชุมชน ที่จัดเก็บข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพ ความหลากหลายทางวัฒนธรรมของพื้นที่ต่าง ๆ มากกว่า 3,000 ตำบล ที่จะนำมาช่วยชี้เป้าการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางซอฟต์พาวเวอร์ได้ เช่น ผ้าพื้นถิ่น อาหารประจำถิ่น รวมถึงงานประเพณีต่าง ๆ ของแต่ละพื้นที่”

นางสาวศุมาสกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ อว.ยังมีอุทยานวิทยาศาสตร์และมหาวิทยาลัยในพื้นที่ ที่จะช่วยสนับสนุนการสร้างอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ทั้งระบบ ใน 11 ด้าน โดยสามารถปรับให้เป็นนิคมนวัตกรรมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ รวมทั้งการกระตุ้นกิจกรรมสร้างสรรค์ในเยาวชน นิสิต นักศึกษา กระตุ้นพลังการสร้างสรรค์ของเยาวชน และนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ ให้มีบรรยากาศการเรียนรู้ การอบรม การประกวดแข่งขันในรูปแบบต่าง ๆ ได้ทั่วประเทศ

ซึ่งสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติหน่วยงานภายใต้ อว.สามารถร่วมดำเนินการได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนของกระทรวง อว.ใช้ศักยภาพที่มีอยู่อย่างเต็มที่ในทุกด้าน สนับสนุนและผลักดันให้ประเทศไทยขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำของโลกในเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ให้ได้