
คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ
สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปเกาหลีใต้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการต่อต้านการท่องเที่ยวเกาหลี ที่รณรงค์ในโซเชียลมีเดีย ต่อระบบการตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีใต้ โดยเฉพาะระบบ K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) หรือระบบอนุมัติการเดินทาง สำหรับประเทศที่ได้ทำข้อตกลงยกเว้นวีซ่า ที่มักปฏิเสธผู้เดินทางจากประเทศไทยแม้ว่ามีเอกสารถูกต้องก็ตาม
ตัวเลของค์การท่องเที่ยวเกาหลีเปิดเผยว่า จำนวนคนไทยที่เข้าไปเที่ยวเกาหลีเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ลดลง 19.5% จากปีก่อน ถือได้ว่าเป็นการลดลง 7 เดือนติดต่อกันแล้ว ทำให้ประเทศไทยซึ่งเคยติดอันดับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้าไปเที่ยวเกาหลีเป็นอันดับ 3 ในเดือน เม.ย. ลงมาเป็นอันดับ 5 ในเดือน พ.ค.
จำนวนนักท่องเที่ยวสะสมจากประเทศไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ลดลงร้อยละ 19.1 จากปีที่แล้ว สวนทางกับการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวโดยรวมที่เดินทางเข้าไปเที่ยวเกาหลี ภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด ซึ่งในเดือน มิ.ย. เกาหลีใต้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเยือนมากกว่า 1.41 ล้านคน เพิ่มขึ้น 47.5% ของปีที่แล้ว
ก่อนโควิดระบาด เกาหลีใต้เป็นประเทศยอดนิยมสำหรับคนไทย นักท่องเที่ยวจากไทยเดินทางท่องเที่ยวเกาหลีมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีจำนวนกว่า 572,000 คน ในปี 2562 จากความนิยมอย่างล้นหลามของเคพ็อป ละครเกาหลี และวัฒนธรรมอื่น ๆ
แต่ระบบ K-ETA ที่เปิดตัวในปี 2564 ช่วยให้นักเดินทาง 112 ประเทศ ลงทะเบียนข้อมูลทางออนไลน์ และอนุญาตให้เข้าเกาหลีใต้ได้ แต่มีการปฏิเสธคนไทยไม่ให้เข้าประเทศจำนวนมาก จึงก่อให้เกิดกระแสต่อต้านการเดินทางไปเกาหลีของคนไทย
ภาคราชการของเกาหลีเองห่วงใยแนวโน้มดังกล่าว และขอให้ลดความเข้มงวดต่อนักท่องเที่ยวชาวไทย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทย และบรรลุเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยว 20 ล้านคน ภายในปี 2567 แต่กระทรวงยุติธรรมของเกาหลีปฏิเสธ อ้างว่าไทยเป็นชาติที่ลอบพำนักในเกาหลีแบบผิดกฎหมาย สัดส่วนใหญ่ที่สุด
แนวทางการแก้ปัญหาผู้ลักลอบเข้าเมืองของเกาหลีใต้ ที่ขาดการจำแนกแยกแยะ ระหว่างนักท่องเที่ยวกับผู้ลักลอบเข้าไปทำงาน กำลังส่งผลด้านลบต่อการท่องเที่ยวเกาหลีเอง และยังส่งผลต่อความรู้สึกที่ดีของคนไทย อันเป็นผลจากซอฟต์พาวเวอร์ของเกาหลีใต้อันทรงพลัง ที่เคยเป็นโมเดลให้ชาติต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทยได้ศึกษา
บทเรียนจากเกาหลีใต้ที่น่าศึกษาในขณะนี้ก็คือ ชาติต่าง ๆ ควรอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ปฏิบัติต่อกันด้วยอคติ นโยบายของแต่ละรัฐควรอยู่บนพื้นฐานนี้ หาไม่แล้ว ทัศนคติเชิงลบนี้ จะลดทอนทำลายพลังดึงดูดจากซอฟต์พาวเวอร์ และทำให้ความเป็นมิตรระหว่างกันมีปัญหา และบานปลายเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบกว้างขวางมากขึ้น