
นิรุตติ์ ศิริจรรยา คุณหญิงจำนงศรี ลุงอ้วน กินกะเที่ยว ร่วมวงแชร์แรงบันดาลใจใช้ชีวิตหลังเกษียณ ในงาน “ปล่อยพลังคนวัยซ่า” กับ นิตยสาร โอ-ลั้นลา ที่มิวเซียมสยาม วัยเก๋าแห่ฟังเพียบ
วันที่ 1 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นิตยสารโอ-ลั้นลา ร่วมกับสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) จัดงาน O-lunla Market @ Museum Siam ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ปล่อยพลังคนวัย ซ่า” (SA:Silver Age)
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1 มิ.ย.นี้ ใครมีสิทธิรับวงเงินค่าซื้อสินค้า 900 บาท
- มหาดไทยประกาศ ขอสละสัญชาติไทย 75 ราย แห่ไปขอถือสัญชาติสิงคโปร์
- ศุภวุฒิ ตีโจทย์นโยบายรัฐบาลใหม่ ปมขึ้นค่าแรง-รีดภาษี หนี้เสีย 1 ล้านล้าน
โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมายภายในงานจากคนวัยเกษียณ เช่น การพูดสร้างแรงบันดาลใจ ร้อง เต้น เล่นดนตรี เวิร์กช็อป ตรวจสุขภาพ และ การออกร้านของผู้ประกอบการวัย 55 ปีขึ้นไปกว่า 60 ร้าน ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.-2 เม.ย. นี้
เนื่องจากประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ตั้งแต่ปี 2564 โดยประชากรวัย 60 ปีขึ้นไป คิดเป็น 20% ของจำนวนประชากรทั้งหมด และจะเพิ่มเป็น 26.7% ของประชากรทั้งหมด 66 ล้านคน ภายในปี 2573
หากพิจารณาประเทศที่เข้าสู่สังคมสูงอายุก่อนประเทศไทย ปัญหาที่คล้ายคลึงกัน คือ ปัญหาขาดแคลนแรงงานวันทำงาน อัตราการพึ่งพิงของผู้สูงอายุมากขึ้น ภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขของประเทศเพิ่มขึ้น ตลอดจนปัญหาด้านการเงินส่วนบุคคลที่ไม่มีการออมไว้มากพอสำหรับวัยเกษียณ
อย่างไรก็ดี คนวัยเกษียณจำนวนไม่น้อยสามารถสร้างคุณค่าและมูลค่าให้กับตัวเองตลอดจนสังคมได้ หากสามารถสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้คนส่วนใหญ่เตรียมความพร้อมในการใช้ชีวิตหลังเกษียณได้เพิ่มขึ้นจะทำให้ประเทศมีความเข้มแข็งได้อย่างยั่งยืน
โอ-ลั้นลา มาร์เก็ต จึงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ตอกย้ำให้เห็นพลังของผู้สูงวัย สร้างแรงบันดาลใจ พร้อมปูทางการสร้างอาชีพที่สอง (Second Career) เพื่อพึ่งพิงตนเองได้ในอนาคต
สำหรับงานในวันแรก (31 มี.ค.) ไฮไลต์คงหนีไม่พ้น 3 ไอดอลวัยเก๋า ได้แก่ นิรุตติ์ ศิริจรรยา, คุณหญิงจำนงศรี หาญเจนลักษณ์ และลุงอ้วน กินกะเที่ยว ที่มาร่วมวงแชร์แรงบันดาลใจตลอดจนประสบการณ์ต่าง ๆ ของการใช้ชีวิตหลังวัยเกษียณ

3 ไอดอลวัยเก๋า แชร์แรงบันดาลใจหลังวัย 60
“นิรุตติ์ ศิริจรรยา” นักแสดงวัย 76 ปี กล่าวว่า ไม่สามารถเริ่มใช้ชีวิตหลังวัยเกษียณได้ หลายคนรอให้เกษียณก่อนแล้วค่อยทำ กลับกันต้องเริ่มต้นตั้งแต่แรกตามกำลังที่มี
โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพที่ต้องดูแลตั้งแต่ต้น ไม่ใช่อายุ 60 แล้วค่อยมาตรวจสุขภาพหรือเลือกรับประทานอาหาร ทั้งหมดต้องเริ่มต้นที่การใช้ชีวิตก่อนหน้านั้น
สำคัญที่สุดคือการกินอาหาร ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่าสุขภาพจะดีหรือเจ็บป่วย บางคนทำร้ายตัวเองด้วยการกินมาตลอดและจะมาเปลี่ยนเมื่ออายุ 60 ปี นั้นก็อาจจะไม่เห็นผลเท่าไรนัก
อาหารที่เราชอบกินส่วนมากจะไม่ค่อยดี ทั้งหวาน มัน แม้ชอบแต่กลับทำให้ร่างกายถดถอยลง ทั้งนี้ยังไม่มีอะไรสายเกินไป เริ่มด้วยการลดสิ่งดังกล่าวลงหรือปฏิเสธเลยก็เป็นการดี
ทุกคนสามารถควบคุมตนเองได้หมด ในทางกลับกันก็ปล่อยให้ตนเองถูกควบคุมจากร่างกายบ้าง ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เช่น ง่วงก็นอน กินเมื่อหิว เป็นต้น
ในเรื่องการออกกำลังกาย หลายคนอ้างว่าบ้านไม่มีที่ ไม่มีเวลาไปฟิตเนตหรือสวนสาธารณะ ส่วนตัวมองว่าเป็นการผลักภาระในการจะทำอะไรที่มีประโยชน์ต่อร่างกายตนเอง ห้องแคบ ๆ เดินไปเดินมาก็เป็นการเดินหลายกิโลเมตรได้ อยู่บ้านก็สามารถขยับร่างกายได้ เต้นได้ ซิตอัพได้ เป็นต้น เพียงวันละครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
นอกจากการกิน นอน ออกกำลังกาย อีกประการคือหมั่นสังเกตตนเองและไปพบเเพทย์อย่างสม่ำเสมอ หลายคนพูดว่ารอก่อน ในท้ายที่สุดอาจหนักจนไม่มีวิธีแก้ไข
หากถามว่ากินอะไรบำรุงร่างกาย นิรุตติ์ กล่าวว่า กินวันละ 1 มื้อและกินทุกอย่าง เช่นอยากกินขาหมูก็กิน แต่อย่าให้บ่อยนัก ที่สำคัญตนจะกินมังสวิรัติทุกวันศุกร์มาเป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว
ยาบำรุง อาหารเสริม รวมถึงอาหารที่มีสรรพคุณพิเศษต่าง ๆ ไม่มีทางทำให้สุขภาพเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ มีแต่จะทำให้เงินในกระเป๋าลดลงเท่านั้น การออกกำลังกายต่างหากเป็นยาที่วิเศษที่สุด
วันนี้ผมไม่มีโรคประจำตัวอะไรเลย ไม่มียาอะไรต้องกิน ไม่ได้เข้าโรงพยาบาลเลย 10 กว่าปี เพียงแต่เข้าศูนย์ชะลอวัย ซึ่งเป็นการดูแลตัวเองแทนการต้องมากินยา นักแสดงวัย 76 ปี กล่าวอย่างภูมิใจ
วัย 60 ปี แต่ยังพร้อมเรียนรู้เสมอ
“คุณหญิงจำนงศรี หาญเจนลักษณ์” เผยว่า วัย 60 ปี สำหรับเธอผ่านมาจนแทบจำไม่ได้ วันนี้ในวัย 84 ปี บวกกับโรคต่าง ๆ ที่เป็นอยู่ถือว่าค่อนข้างสบายมาก โดยเลือกอยู่กับปัจจุบัน ความรู้สึกในตอนนี้คือทุก ๆ อย่างนั้นสดใสไปหมด หากเราไม่คิดว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไร วันนี้จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
ในวันนี้ยังพร้อมเรียนรู้อยู่เสมอ ไปลงคอร์สเรียนอะไรต่าง ๆ มากมาย เหมือนว่าทุกอย่างเป็นพลังงานไปหมด ลม ต้นไม้ ธรรมชาติ เราแค่ยอมรับว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของสรรพสิ่งทั้งหมด เพียงเท่านี้ก็รู้สึกสบายมากแล้ว
เมื่ออยู่มาจนถึงตอนนี้ทำให้ตระหนักได้ว่าชีวิตนั้นมีค่าทุกวินาที แม้จะมองว่าสดใสแต่ก็มีปัญหาอยู่บ้างเป็นเรื่องธรรมดา โดยมองว่าปัญหาที่อยู่รอบตัวเราเดือดร้อนกับสิ่งนั้นมากเพียงใด ขึ้นอยู่กับความขัดแย้งในใจตนเอง
ความสุขนั้นคืออะไรก็ได้ คุณหญิงจำนงศรี กล่าวทิ้งท้าย
เคล็ดลับความสุข วันเกษียณทุกคนว่าอย่าอยู่บ้าน
“อนุสร ตันเจริญ” หรือ ลุงอ้วน กินกะเที่ยว กล่าวว่า มุมมองของตนอาจไม่ได้เป็นเรื่องสุขภาพ จากไลฟ์สไตล์ที่เป็นคนชอบกินมาตั้งแต่วัยรุ่น วันนี้ในวัย 67 ปีที่เป็นทุกโรคแต่เราสามารถควบคุมได้หมดด้วยการพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ และต้องบังคับตัวเองให้ได้ในการเลือกกินอาหารบางอย่างที่อาจส่งผลกระทบต่อโรคนั้น ๆ
สิ่งหนึ่งที่ทำให้มีชีวิตชีวาคือเราหยุด ไม่อยากสร้าง ไม่อยากมีมากกว่านี้ จุดนี้ต้องขึ้นกับความพอใจของแต่ละคนทั้งในเรื่องความต้องการและกำลังทรัพย์
สิ่งที่ลุงอ้วนเลือกคือ การไปเที่ยวกับรถบ้านคู่ใจ โดยเน้นย้ำวันเกษียณทุกคนว่าอย่าอยู่บ้าน ต้องออกไปเปิดหูเปิดตา เดินตลาด หาของกินอร่อย ๆ ราคาไม่ต้องแพง และออกมาพบปะคนวัยเดียวกันจะทำให้มีกำลังกายและกำลังใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น