PIN ส่งนิคม ปิ่นทอง 6 ชิงเค้กอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ EV  

นิคมอุตสาหกรรม ปิ่นทอง 6

นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง เร่งรุกทำตลาดชิงลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์อีวี หวังดันการขายที่ดินเพิ่ม ชูจุดเด่นด้านทำเลที่ตั้งโครงการในเขตพื้นที่ EEC และการบริหารจัดการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมระดับสูงสุด (Eco world class) ร่วมดันไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์อีวีภูมิภาคอาเซียน

วันที่ 19 กันยายน 2565 นายสุรัช พัฒนวงศ์ยืนยง ประธานเจ้าหน้าที่สายปฏิบัติการ บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ PIN ผู้พัฒนาพื้นที่ นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง เปิดเผยว่า ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve ของภาครัฐที่ต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เนื่องจากมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานรองรับและทักษะแรงงานที่มีฝีมือ ตลอดจนนโยบายภาครัฐมีมาตรการส่งเสริมเรื่องมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นให้ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ ทั้งจากประเทศจีน ญี่ปุ่น ยุโรป และอเมริกา เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย และทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้ามีความคึกคักมากขึ้น

ประเมินว่าเมื่อมีค่ายรถยนต์เข้ามาตั้งฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยแล้ว จะทำให้ผู้ประกอบการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าเข้ามาตั้งโรงงานผลิตเพิ่มเติม ทั้งกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วน อะไหล่ รวมถึงแบตเตอรี่ สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า จึงเป็นโอกาสของ PIN ในการนำศักยภาพโครงการนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 6 ที่มีพื้นที่รวมกว่า 1,500 ไร่

ซึ่งมีความโดดเด่นในด้านทำเลที่ตั้งในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก (EEC) และใกล้กับโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และมีการบริหารจัดการโครงการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมรอบด้าน รองรับความต้องการผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์อีวี เพื่อร่วมผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ในภูมิภาคอาเซียน

ซึ่งบริษัทได้เร่งสื่อสารจุดเด่นโครงการผ่านสื่อออนไลน์ไปยังกลุ่มนักลงทุนจีนและญี่ปุ่น โดยตอกย้ำจุดเด่นโครงการที่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภค และการให้บริการที่เกี่ยวข้องแบบ One-Stop service เช่น การขอใบอนุญาตก่อสร้าง การขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการที่เข้ามาลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าทั้งไทยและต่างชาติ ซึ่งถือเป็นซัพพลายเชนสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าให้เข้ามาตั้งฐานผลิตในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 6

ทั้งนี้ ฐานลูกค้าในโครงการนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ คิดเป็นสัดส่วน 23% ของฐานลูกค้าทั้งหมด ซึ่งมีทั้งผู้ประกอบการจากญี่ปุ่น จีน และไต้หวัน ทำให้บริษัทมีความเข้าใจถึงความต้องการของผู้ประกอบการที่ต้องการเข้ามาลงทุน

“เราประเมินว่าในอีก 1-3 ปีข้างหน้า จะเห็นผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าเข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทยอีกเป็นจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสของ PIN นำเสนอโครงการนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 6 เข้าไปรองรับกับเม็ดเงินลงทุนของผู้ประกอบการกลุ่มนี้เข้ามาตั้งโรงงานผลิตในไทย ซึ่งส่งผลดีต่อการดำเนินงานของ PIN ที่จะทำยอดขายจากการขายที่ดินได้เพิ่มขึ้น”