“จุรินทร์” เปิด 4 กิจกรรมขายผลไม้ล่วงหน้า โกยรายได้ 2,300 ล้าน

กระทรวงพาณิชย์ เปิดโครงการจับคู่ธุรกิจผลไม้

“จุรินทร์” เป็นประธานเปิดโครงการจับคู่ธุรกิจผลไม้สด แปรรูป จัด 4 กิจกรรมขายผลไม้ปี 2566 ดันสร้างเม็ดเงิน 2,300 ล้านบาท

วันที่ 8 มีนาคม 2566 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดโครงการจับคู่ธุรกิจผลไม้สด แปรรูป และผลิตภัณฑ์เกษตรอื่นๆ พร้อมเปิดเผยว่า ตนมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการ ภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรผลิตพาณิชย์ตลาด” ยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” และยุทธศาสตร์การตลาด “เชิงรุกและเชิงลึก”

รวมถึงให้กรมส่งเสริมการค้าระว่างประเทศ ที่รักษาตลาดเดิมและเพิ่มตลาดใหม่ช่วง 3-4 ปี สามารถรักษาตลาดผลไม้เดิมและเพิ่มตลาดใหม่ได้อย่างมีศักยภาพในหลายประเทศ เช่น จีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และอีกหลายตลาด

กระทรวงพาณิชย์ เปิดโครงการจับคู่ธุรกิจผลไม้

ทั้งนี้ ช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ประมาณ 1,040,000 ครัวเรือน ยกระดับราคาผลไม้ช่วง 4 ปีดีทุกปีในภาพรวม เฉลี่ยราคาผลไม้ดีที่สุดสามารถทำตลาดส่งออกล่วงหน้าได้เยอะมาก ช่วยให้เกษตรกรมีช่องทางระบาย สร้างอนาคตในปีนี้ให้กับราคาผลไม้ช่วยเกษตรกรสร้างเงินให้ประเทศมหาศาลตกไปหาเกษตรกรต่อไป

สำหรับ 4 สร้างกิจกรรมหลัก สามารถสร้างเงินให้ประเทศทันที 2,300 ล้านบาท กิจกรรมที่หนึ่งคือลงนาม MOU ซื้อขายล่วงหน้า 6 คู่ จีน ญี่ปุ่นและฮ่องกงมูลค่า 1,600 ล้านบาท กิจกรรมที่สองคือจับคู่เจรจาธุรกิจคาดว่ายอดไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท มีผู้ส่งออกมาในงาน 84 บริษัทและผู้นำเข้า 57 บริษัท จาก 17 ประเทศ

เช่น ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง สาธารณรัฐเช็ก อินเดีย มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สวีเดน ไต้หวัน ดูไบ เวียดนาม สหราชอาณาจักรอังกฤษ บังคลาเทศ คาดว่าสามารถเซ็นสัญญาได้ไม่น้อยกว่า 385 คู่

กิจกรรมที่สาม คือการลงนามระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ กับ Bank of China จะช่วยอำนวยความสะดวกผู้นำเข้าจีนหรือผู้ส่งออกไทย ในการชำระเงินทั้งลูกค้าไทยและจีนมากขึ้นด้วยเงื่อนไขผ่อนปรน และกิจกรรมที่สี่ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดตัวแบรนด์ไทยให้กับผลไม้และผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูปของไทยในตลาดโลกต่อไป ด้วยการทำสื่อโฆษณาหลากหลายรูปแบบ และจะยังมีอีก 34 กิจกรรมที่เตรียมไว้ทั่วโลก

กระทรวงพาณิชย์ เปิดโครงการจับคู่ธุรกิจผลไม้

ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศระบุว่า โครงการจับคู่ธุรกิจสินค้าผลไม้สด แปรรูป และผลิตภัณฑ์เกษตรอื่น ๆ ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 โดยปีนี้เป็นครั้งแรกที่กลับมาจัดกิจกรรมแบบสถานที่จริง (On-Site) หลังจัดในรูปแบบออนไลน์มาถึง 2 ปี ในช่วงการระบาดของโควิด ได้บูรณาการความร่วมมือจากหลายฝ่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร รวมถึงพาณิชย์จังหวัด

ส่วนทูตพาณิชย์ในต่างประเทศ ร่วมเป็นทัพหน้าในการทำการตลาดเชิงรุก เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกร ผู้ค้า ผู้ส่งออกไทย ได้ระบายสินค้าผลไม้สด แปรรูป และผลิตภัณฑ์เกษตร เพิ่มโอกาสทางการค้า พร้อมสร้างชื่อเสียงให้สินค้าผลไม้ไทย และแสดงความก้าวหน้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

สำหรับการส่งออก ผลไม้สดและแปรรูปของไทยดีขึ้นเป็นลำดับในปี 2565 ส่งออกผัก ผลไม้สด ผลไม้แปรรูป รวมกันถึง 4.5 ล้านตัน มูลค่า 8.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (290,000 ล้านบาท)ที่สร้างเงินให้ประเทศ และเดือน ม.ค. – ก.พ. 2566 ไทยส่งออกผักผลไม้สดและแปรรูปไปแล้ว 2.82 แสนตัน สร้างเงินให้ประเทศ 13,637 ล้านบาท