พาณิชย์สั่งการเตรียมแผนรับมือเอลนีโญ กระทบสินค้าเกษตร ปาล์ม-มัน-ผลไม้

มันสำปะหลัง ปาล์ม

กรมการค้าภายในเผยเตรียมแผนรับมือเอลนีโญ สั่งการพาณิชย์จังหวัดประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ชี้แล้งปีนี้ผ่านแล้วเตรียมรับมือแล้งหน้า ขณะที่ราคาสินค้า พืช ผัก ผลไม้ดีขึ้น โดยเฉพาะผลไม้ใต้ ทุเรียนเกรด AB ราคาพุ่งแตะกิโลกรัมละ 145 บาทแล้ว

วันที่ 6 กรกฎาคม 2566 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากการประกาศของอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา ปรากฏการณ์เอลนีโญเริ่มขึ้นแล้ว ส่งสัญญาณให้รัฐบาลทั่วโลกเตรียมมาตรการรับมือ ซี่งก็ต้องยอมรับว่าสภาวะอากาศที่เปลี่ยนจะมีผลกระทบต่อปริมาณและคุณภาพของพืชผลทางการเกษตร

แต่อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในได้ติดตามและสั่งการพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ร่วมกับเกษตรจังหวัด กรมส่งเสริมการเกษตร หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม
วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม

โดยสถานการณ์ปัจจุบันถือว่าผ่านพ้นแล้งไปแล้ว แต่สิ่งที่ต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์แล้งที่เกิดขึ้นในปี 2567 ซึ่งมีสินค้าเกษตรที่ต้องติดตามสถานการณ์ เช่น ข้าว ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง พืช-ผัก และผลไม้ เป็นต้น รวมไปถึงติดตามราคาอาหารสัตว์ด้วย เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งล้วนจะมีผลกระทบต่อปริมาณและราคา ซึ่งจากนี้กรมก็จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและติดตามปริมาณน้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมการรับมือผลกระทบที่จะเกิดขึ้น

อย่างไรก็ดี ราคาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะข้าวเปลือกขณะนี้ดีขึ้น พบว่าข้าวเปลือกปทุม ราคาปรับขึ้นอยู่ที่ 10,600 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเจ้า 10,400 บาทต่อตัน ส่วนข้าวหอมมะลิ ราคาทรงตัว 14,600 บาทต่อตัน ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ 13,750 บาทต่อตัน ข้าวเหนียว 13,200 บาทต่อตัน

ราคามันสำปะหลัง เชื้อแป้ง 25% เฉลี่ยสูงขึ้น 3.55 บาทต่อกิโลกรัม ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 11.43 บาทต่อกิโลกรัม ปาล์มน้ำมัน 6.25 บาทต่อกิโลกรัม เป็นผลมาจากการปรับสัดส่วนการใช้ B100 และอินโดนีเซียเพิ่มการใช้ บี มากขึ้น ขณะที่สินค้าอุปโภค-บริโภค เช่น หมู ไก่ ราคาปรับลดลง รวมไปถึงสินค้า 18 หมวดสำคัญ ราคาก็อยู่ในเกณฑ์ลดลง ราคาผัก ผลไม้ ก็ราคาดี ส่วนมะนาวที่จะออกสู่ตลาดเยอะกรมก็เตรียมการช่วยเหลือในการระบายสินค้าแล้ว พร้อมกันนี้ กรมการค้าภายในได้ประสานห้างสรรพสินค้า ในการจัดโปรโมชั่น เพื่อช่วยเหลือประชาชน

ทุเรียนใต้พุ่งแตะ 145 บาทต่อกก.

นอกจากนี้ กรมได้ติดตามสถานการณ์การรับซื้อผลไม้ภาคใต้ประจำสัปดาห์ พบว่าผลจากตลาดส่งออกมีความต้องการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการไปรับซื้อทุเรียนและมังคุดในพื้นที่ภาคใต้เพิ่มมากขึ้น ทำให้ราคาปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดราคาทุเรียนเกรด AB ขยับขึ้นไปเป็นกิโลกรัม (กก.) ละ 145 บาท ตกเกรดอยู่ที่ กก.ละ 100 บาท

โดยกรมขอให้เกษตรกรเน้นในเรื่องคุณภาพ อย่าตัดทุเรียนอ่อน เพื่อสร้างมาตรฐานให้กับทุเรียนไทย และส่งผลดีต่อราคาที่ขายได้ และกรมยังจะร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และจังหวัด ดูแลเรื่องมาตรฐาน และการรับซื้อ ที่ต้องเป็นธรรม เพื่อดูแลเกษตรกรอย่างใกล้ชิดด้วย

ทั้งนี้ ยืนยันว่าตลาดส่งออกมีความต้องการเพิ่มขึ้นจริง โดยกรมได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบการส่งออกผลไม้ผ่านระบบราง ที่สถานีรถไฟมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง พบว่ามีความคึกคักมาก เพราะผู้ส่งออกหันมาใช้การส่งออกทางนี้มากขึ้น นอกเหนือจากการขนส่งทางบกและทางเรือ โดยช่วงครึ่งปี 2566 มีการส่งออกไปแล้ว 2,124 ตู้ เทียบกับปี 2565 ทั้งปีส่งออกเพียง 512 ตู้ ถือเป็นทิศทางที่ดีขึ้น

และได้รับการยืนยันจากผู้ส่งออกว่าจะส่งออกทางนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะการขนส่งทางระบบรางมีความรวดเร็ว ตู้สินค้าไม่ต้องไปเข้าคิวติดที่ด่าน เหมือนการขนส่งทางบก และตู้ขนส่งก็เป็นระบบควบคุมอุณหภูมิ ทำให้ผลไม้ยังสด เมื่อไปถึงปลายทาง และใช้เวลาลดลงจากเดิม 11 วัน เหลือ 6 วัน ทำให้ตลาดจีนหันมานิยมขนส่งทางนี้มากขึ้น

ส่วนมาตรการดูแลผลไม้ภาคใต้ที่กำลังออกสู่ตลาด กรมได้ประสานผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ 5 ราย ได้แก่ บริษัท ไอริส กรุ๊ป จำกัด บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชัน จำกัด บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และบริษัท สมาร์ท เซอร์วิส แมเนจเม้นท์ (AP) จำกัด และได้เพิ่มมาอีก 1 รายคือ เสนาเพลส เข้ามาช่วยเปิดพื้นที่ในหมู่บ้านและคอนโดมิเนียม ให้นำผลไม้เข้าไปจำหน่าย เป้าหมาย 5 หมื่นครัวเรือน ปริมาณ 5,000 ตัน

พาณิชย์ประสานเอกชนรับซื้อผลไม้

นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่า ขณะนี้ผลไม้ภาคใต้ออกสู่ตลาดแล้ว 35-45% แล้วแต่ชนิด โดยสถานการณ์ราคาดีขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่กรมได้ประสานผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก โรงงานแปรรูป ห้างค้าส่งค้าปลีก พ่อค้าส่ง เข้าไปรับซื้อ อย่างทุเรียน เกรด AB ราคา 130-145 บาท เพิ่มขึ้นจากเดือน มิ.ย. 2566 ที่ 115-125 บาท เกรด C ราคา 95-105 บาท เกรด D ราคา 90 บาท มังคุด เกรดมันรวม ราคา 53-109 บาท เกรดคละ ราคา 28-30 บาท เงาะโรงเรียน ราคา 33-35 บาท เกรดสีทอง ราคา 26-27 บาท

กรนิจ โนนจุ้ย
กรนิจ โนนจุ้ย

สำหรับมาตรการช่วยเหลือผลไม้ที่ยังไม่ออกสู่ตลาด กรมได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ทั้งการประสานผู้ประกอบการกลุ่มต่าง ๆ เข้าไปรับซื้อ การใช้มาตรการเสริมเร่งระบายผลไม้ โดยทุเรียนไม่น่าเป็นห่วง ตอนนี้ตลาดต้องการมาก ทั้งในประเทศและส่งออก เงาะก็ออกแล้ว 50% พ่อค้าเข้าไปแย่งกันซื้อผลผลิตที่เหลือ ส่วนมังคุดใน จ.นครศรีธรรมราช และ 3 จังหวัดภาคใต้ จะเริ่มออกเดือน ก.ค.-ส.ค.นี้ เกรดมันรวม ไม่น่าจะมีปัญหา เกรดคละ หากออกมากก็มีมาตรการเสริมเข้าไปดูแล เช่น การระบายผ่านโครงการอสังหาริมทรัพย์ การระบายผ่านห้างท้องถิ่นที่มี 600 สาขา ปั๊มน้ำมันทั่วประเทศ 5,000 สาขา และโมบายพาณิชย์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 100 จุด