
“ไทยออยล์” เผยผลดำเนินงานไตรมาส 2/2566 ทำกำไรสุทธิ 1,117 ล้านบาทฝ่าพิษเศรษฐกิจชะลอตัว-ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัว
วันที่ 9 สิงหาคม 2566 นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่า ไตรมาส 2/2566 กลุ่มไทยออยล์มีกำไรสุทธิ 1,117 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 1/2566 ที่กำไรสุทธิที่ 4,554 ล้านบาท
เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันปิโตรเลียมเทียบกับราคาน้ำมันดิบดูไบ ที่ปรับตัวลดลง หลังจากอุปทานน้ำมันจากประเทศรัสเซียยังคงมีการซื้อขายในตลาดอย่างต่อเนื่อง
สำหรับธุรกิจอะโรเมติกส์ ราคาสารพาราไซลีนได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ในช่วงปลายฤดูร้อนของภูมิภาคเอเชีย ในขณะที่ราคาสารเบนซีนปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวส่งผลดี ทำให้ธุรกิจผลิตสารตั้งต้นสำหรับผลิตภัณฑ์สารทำความสะอาดที่ใช้สารเบนซีนเป็นวัตถุดิบหลักมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น
สำหรับธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานปรับตัวลดลง จากความต้องการใช้ในภูมิภาคที่ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน
ราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 2/2566 ปรับตัวลดลง เนื่องจากอุปสงค์มีแนวโน้มชะลอตัว จากความกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายหลังการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางทั่วโลกเพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
นายบัณฑิตกล่าวเสริมว่า ภาพรวมธุรกิจกลุ่มไทยออยล์ในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่ามีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากอุปทานน้ำมันที่ตึงตัวขึ้นในช่วงไตรมาส 2/2566 หลังกลุ่มโอเปกพลัสที่นำโดยประเทศซาอุดีอาระเบีย และรัสเซียปรับลดการผลิตน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อุปสงค์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล
รวมถึงมีการปิดซ่อมบำรุงกะทันหันของโรงกลั่นหลายแห่งในสหรัฐ ยุโรป และเอเชีย ส่งผลให้สต๊อกน้ำมันทั่วโลกอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
“แม้ว่าจะมีปัจจัยความเสี่ยงจากสภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว กลุ่มไทยออยล์ได้เฝ้าระวังความผันผวนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น และมีมาตรการติดตาม เพื่อเตรียมพร้อมรับมือและแสวงหาโอกาสในการสร้างรายได้ให้เหมาะสมกับสภาพตลาดอย่างต่อเนื่อง”