
ผู้ส่งออกข้าวแจงผลผลิตข้าวปี 2566 นี้ ไม่กระทบจากเอลนีโญ คาด 34 ล้านตันข้าวเปลือก ส่วนส่งออกมอง 8.3 ล้านตัน โอกาสขึ้นเป็นอันดับ 2 ของโลกในการส่งออก ส่วนปัญหาตลาดอิสราเอลไม่กระทบต่อการส่งออกข้าวไทย เนื่องจากต่อปีเฉลี่ยส่งออกแค่ 50,000 ตัน
วันที่ 11 ตุลาคม 2566 นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การเข้าพบนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บ่ายวันนี้ (11 ตุลาคม 2566) ทางสมาคมฯ ได้ชี้แจงถึงผลผลิตข้าวปี 2566 นี้ ประเมินแล้วไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากเอลนีโญ และน่าจะดีกว่าปีก่อนด้วยซ้ำ เพราะฝนตกต่อเนื่อง
ส่วนปีหน้ากระทรวงเกษตรสหรัฐ ประเมินว่าผลผลิตทั้งโลกจะเพิ่มขึ้นจาก 518 ล้านตัน เป็น 523 ล้านตัน โดยผลผลิตของอินเดีย จีน จะเท่าเดิม ปากีสถาน เพิ่มขึ้น ไทยและเวียดนามเท่าเดิม ซึ่งผลผลิตของไทยน่าจะมีประมาณ 20 ล้านตันข้าวสาร หรือประมาณ 33-34 ล้านตันข้าวเปลือก ทำให้ปัญหาข้าวขาดแคลน ไม่น่าจะเกิดขึ้น จึงไม่ต้องกังวล ยกเว้นปีหน้าเกิดแล้งจริง ๆ ซึ่งมีการประเมินไว้ว่าเอลนีโญ จะอยู่ 2 ปี แต่ปีนี้ ก็เกิดไม่แรง บางคนยังมองว่าปีหน้าจะอ่อนลงแล้ว
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องทำ คือ ต้องเร่งระบายผลผลิตข้าวต้นฤดูกาลผลิตออกไปให้มากที่สุด เพื่อดึงราคาข้าวในประเทศ และยังมีการประเมินกันว่าปีหน้าอินเดียอาจจะยกเลิกมาตรการห้ามส่งออกข้าวขาวก็ได้ ทำให้ตลาดกลับมาแข่งขันรุนแรงขึ้น โดยคาดว่าปี 2567 ไทยจะส่งออกได้ประมาณ 7.5 ล้านตัน ลดจากปีนี้ที่คาดว่าทั้งปีจะส่งออกได้ 8.2-8.3 ล้านตัน ซึ่งไทยน่าจะเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับที่ 2 ของโลกในปีนี้
“ปีหน้าการแข่งขันข้าวในตลาดโลกสูง เชื่อว่าอินเดียจะยกเลิกมาตรการห้ามส่งออกข้าวจะทำให้การแข่งขันส่งออกข้าวกลับมาคึกคักเพิ่มขึ้น ขณะนี้ราคาข้าวไทยต่ำกว่าเวียดนาม โดยข้าวขาวของไทยเฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 580 เหรียญสหรัฐ
ขณะที่ราคาข้าวเวียดนามเฉลี่ยอยู่ที่ 610 เหรียญสหรัฐต่อตัน แต่สิ่งที่ผู้ส่งออกข้าวกังวล คือ อัตราแลกเปลี่ยนอยู่หากค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ที่ 36-37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐจะทำให้ผู้ส่งออกแข่งขันได้ แต่หากค่าเงินบาทแข็งค่า 1 บาทเท่ากับต้องไปเพิ่มราคาข้าวขาวถึง 17 เหรียญต่อตัน ยิ่งทำให้ผู้ส่งออกแข่งขันข้าวในตลาดโลกลำบากอีกด้วย”
นอกจากนี้ ผู้ส่งออกยังคงจับตาสถานการณ์ความรุนแรงในอิสราเอลอย่างใกล้ชิด แต่เวลานี้เหตุการณ์ยังไม่ลุกลามไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง ก็จะยังไม่ส่งผลกระทบกับการส่งออกข้าวไทย โดยตะวันออกกลางถือเป็นตลาดการส่งออกข้าวที่สำคัญของไทย โดยเฉพาะอิรักที่ถือเป็นตลาดสำคัญขนาดใหญ่ในตลาดข้าวขาว แต่หากการสู้รบไม่ขยายวง ไปจนเกิดการปิดท่าเรือหรือปิดการจนส่งทางอากาศก็จะไม่กระทบกับการค้าของไทย โดยอิสราเอลมีการนำเข้าข้าวไทยปีละประมาณ 50,000 ตัน จึงกระทบกับการส่งออกน้อยมาก