น้ำตาลขึ้นพรวด กก.ละ 4 บาท “ภูมิธรรม” สั่งตรึงราคาได้แค่สต๊อกเก่า

น้ำตาล sugar
Photo by Mathilde Langevin on Unsplash

“ภูมิธรรม” เผย ดูแลราคาสินค้าเต็มที่หลังน้ำตาลทรายปรับขึ้นราคา 4 บาท ด้านพาณิชย์ ส่งหนังสือขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ขายราคาในสต๊อกเก่าไปก่อน

วันที่ 28 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย หรือ สอน. ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ออกประกาศปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงาน อีกกิโลกรัมละ 4 บาท ส่งผลให้ราคาน้ำตาลทรายขาว ปรับราคามาอยู่ที่กิโลกรัมละ 23 บาท น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ กิโลกรัมละ 24 บาท ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2566

ล่าสุดนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรณีการปรับขึ้นราคาน้ำตาลหน้าโรงงานนั้น อยู่ในความดูแลของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกระทรวงพาณิชย์เป็นเพียงปลายน้ำ แต่ในเมื่อขึ้นราคามาแล้ว ก็ถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน

จากนี้จะต้องมีการหารือพยายามแก้ปัญหาที่จะตามมา โดยน้ำตาลที่ขึ้นราคามีผลกระทบกับชีวิตประจำวัน กระทรวงพาณิชย์จะดูแลได้ในกรณีสินค้าควบคุม เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชน

ด้านร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า การผลิตและการจำหน่ายน้ำตาลทรายเป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงอุตสาหกรรมกำกับดูแลทั้งระบบ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ดูแลปลายทาง ทั้งในส่วนของตัวราคาน้ำตาลทรายและสินค้าที่ใช้น้ำตาลทรายเป็นวัตถุดิบ

ล่าสุด กรมฯได้ทำหนังสือให้กับผู้ประกอบการค้าปลีก ค้าส่ง โดยขอความร่วมมือจำหน่ายราคาเดิมไปก่อนในสต๊อกเดิม เพราะถือเป็น ต้นทุนเก่าจนกว่าจะมีการปรับเปลี่ยน

ส่วนสินค้าที่ใช้น้ำตาลทรายเป็นวัตถุดิบ เราดูแลในส่วนของสินค้าควบคุม ให้มีการปรับราคาสะท้อนกับต้นทุนที่แท้จริงตามสัดส่วน และผลกระทบที่เกิดขึ้น ซึ่งแต่ละสินค้าสัดส่วนในการใช้แตกต่างกัน และในส่วนของสินค้าที่ไม่ได้เป็นสินค้าควบคุมนั้น จะใช้การขอความร่วมมือในการปรับราคาเท่าที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนเท่านั้น โดยจะมีการติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป

และสำหรับความกังวลที่ว่าจะมีผู้ประกอบการจำหน่ายของหวาน-อาหาร ฉวยโอกาสในการปรับขึ้นราคา ย้ำว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดมาตลอด มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจตรวจสอบ และประชาชนยังสามารถร้องเรียนผ่านทางสายด่วน 1569 ของกรมการค้าภายในได้ เมื่อมีการร้องเรียนแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ออกไปดำเนินการตรวจสอบให้ความเป็นธรรม ต่อไป

ส่วนผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า กรมฯ จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิด โดยสินค้าที่ใช้น้ำตาลทรายเป็นส่วนผสม แต่ละชนิดมีผลกระทบแตกต่างกัน เพราะใช้น้ำตาลทรายในสัดส่วนที่แตกต่างกัน

“กรณีเป็นสินค้าควบคุม เช่น นมสด ปลากระป๋อง ถ้าผู้ผลิตจะขอปรับราคา กรมฯ ก็ต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไป โดยจะดูตามสัดส่วนการใช้น้ำตาลเป็นส่วนประกอบ รวมทั้งผลกระทบจากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น ประกอบกับต้นทุนส่วนอื่นๆ ด้วย เพราะบางสินค้าแม้ต้นทุนน้ำตาลทรายจะเพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนอื่นๆ อาจจะลดลงก็ได้ ส่วนกรณีสินค้าอื่นๆ เช่น น้ำหวาน ขนมหวาน การกำหนดราคาหรือปรับราคาก็ต้องสอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งกรมฯ จะติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งการส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้า การรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผู้บริโภคทางสายด่วน 1569 และการตรวจสอบให้ความเป็นธรรม” ร.ต.จักรา กล่าว

อย่างไรก็ตาม กรมฯ เชื่อว่าในสถานการณ์ปัจจุบันที่เศรษฐกิจกำลังอยู่ในช่วงการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าส่วนใหญ่คงไม่อยากที่จะปรับขึ้นราคาสินค้า เพราะจะกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค กรณีจำเป็นต้องปรับราคาสินค้าก็ควรพิจารณาให้ส่งผลกระทบน้อยที่สุด สุดท้ายขอเน้นย้ำไปยังผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าทุกราย ห้ามฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควร หากพบจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ