
กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เตรียมพิจารณาออกอาชญาบัตรสำรวจแร่ลิเทียมในพื้นที่จังหวัดราชบุรี-ยะลา เพิ่มอีก ส่วนพังงายังเป็นแค่แร่ดิบ ลุ้น “สยามโลหะ” ยื่นประทานบัตรขุดเจาะ เผยกว่าจะได้แร่ลิเทียมอาจใช้เวลานานอีกหลายปี
วันที่ 22 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เตรียมพิจารณาคำขออาชญาบัตรเพื่อสำรวจลิเทียมในพื้นที่จังหวัดอื่นอีก คือจังหวัดราชบุรีและจังหวัดยะลา หลังจากอาชญาบัตรพิเศษสำรวจลิเทียมได้อนุมัติไปแล้วก่อนหน้านี้จำนวน 3 แปลง ในพื้นที่จังหวัดพังงา
โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่จะเร่งรัดให้เกิดการสำรวจลิเทียมและแร่หายากเพิ่มขึ้น ให้ประเทศไทยมีข้อมูลพื้นฐานสำหรับการทำเหมืองลิเทียม เพื่อรองรับการเป็นฐานการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในภูมิภาคต่อไป
สำหรับแหล่งลิเทียมในประเทศไทย ซึ่งเป็นแหล่งแร่จากหินแข็งในพื้นที่แหล่งเรืองเกียรติ อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงานั้น เป็นคำขอสำรวจจากบริษัท สยามโลหะ อุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งได้รับใบอนุญาตเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2562 โดยอาชญาบัตรพิเศษดังกล่าวจะครบกำหนดอายุในวันที่ 14 ก.พ. 2567
ทั้งนี้ จากการสำรวจแหล่งแร่ดังกล่าว พบหินอัคนีเนื้อหยาบมากสีขาว หรือหินเพกมาไทต์ ซึ่งเป็นหินต้นกำเนิดที่นำพาแร่เลพิโดไลต์สีม่วง หรือแร่ที่มีองค์ประกอบของลิเทียมมาเย็นตัว และตกผลึกจนเกิดเป็นแหล่งลิเทียม เกรดลิเทียมออกไซด์เฉลี่ยอยู่ที่ 0.45% มีปริมาณสำรองประมาณ 14.8 ล้านตัน ซึ่งยังคงเป็นแร่ดิบ (Mineral Resource)
ซึ่งตามกระบวนการแล้วนั้น เมื่อพบแร่ดิบแล้วจะต้องยื่นคำขอประทานบัตรเพื่อขุดเจาะ ใช้ระยะเวลาการพิจารณาระยะหนึ่ง ซึ่งในกระบวนการนี้ผู้ประกอบการจะต้องรายงานแผนทั้งหมด เช่น ปริมาณแร่ที่คาดว่าจะได้ วิธีการทำเหมือง มาตรการดูแลสิ่งแวดล้อม มาตรการเยียวยา การจัดตั้งกองทุนต่าง ๆ ตามกฎหมายแร่
และเมื่อขุดแร่ดิบขึ้นมา จะต้องเข้าสู่กระบวนการถลุงแร่ด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ กว่าจะได้โลหะลิเทียม หรือแร่ลิเทียม (Lithium Resource) อาจใช้เวลาอีกหลายปี