ซีพีเอฟ Q 2/67 พลิกจากขาดทุนเป็นกำไร 6,925 ล้านบาท เติบโต 10 เท่า

Q2 ปี 2567 ซีพีเอฟ” พลิกกลับมากกว่าคาด กำไรสุทธิเติบโต 973% หรือ 10 เท่า กิจการต่างประเทศผลักดันการเติบโต ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลทันทีจำนวน 0.45 บาทต่อหุ้น

วันที่ 14 สิงหาคม 2561 บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ “ซีพีเอฟรายงานรายได้จากการขายสำหรับไตรมาส 2 จำนวน 149,498 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากกิจการในต่างประเทศที่คิดเป็น 64% ของรายได้รวม กิจการประเทศไทย 30% และกิจการส่งออกจากประเทศไทยคิดเป็น 6% มีกำไรสุทธิจำนวน 6,925 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ปีนี้เพิ่มขึ้น 973% หรือ 10 เท่าเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีก่อน โดยหลักมาจากอัตรากำไรขั้นต้นและส่วนได้ในกำไรของบริษัทร่วมและการร่วมค้าที่ดีขึ้น

ปัจจัยหลักที่ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 15% ในปีนี้ เป็นผลมาจากต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ที่ลดลงจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ประสิทธิภาพในการผลิตที่ดีขึ้น และการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย ประกอบกับราคาสุกรทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศเวียดนามและกัมพูชาอยู่ในระดับที่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับสมดุลของปริมาณการผลิตจากภาวะเนื้อสัตว์ล้นตลาด และภาวะโรคระบาด ASF ในช่วงที่ผ่านมา

ส่วนได้ในกำไรของบริษัทร่วมและการร่วมค้าจำนวน 3,352 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 475% เป็นผลหลักมาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของบริษัทร่วมที่ดำเนินธุรกิจอาหารสัตว์และสุกรในสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ระดับราคาสุกรอยู่ในระดับที่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน  และผลการดำเนินงานของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ที่ดีขึ้น

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวถึงผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นว่าเป็นการพลิกฟื้นของธุรกิจซีพีเอฟกลับสู่สภาวะปกติ หลังจากปีที่แล้วที่บริษัทผ่านความท้าทายมากมายไม่ว่าจะเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และภาวะสินค้าล้นตลาดของปริมาณเนื้อสัตว์ในหลายประเทศ โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ให้ความสำคัญด้านการประเมินสถานการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิด ติดตามพฤติกรรมผู้บริโภค และที่สำคัญ คือ เรื่องประสิทธิภาพในทุกกระบวนการ เพื่อให้บริษัทมีต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ในตลาด รวมทั้งสามารถผลิตสินค้าในระดับราคาที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้

ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปีนี้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ จากผลการดำเนินงานในต่างประเทศที่ดีเกินคาดการณ์ โดยเฉพาะในประเทศเวียดนามและกัมพูชา รวมทั้ง บริษัทร่วมที่ดำเนินธุรกิจอาหารสัตว์และสุกรในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากประสิทธิภาพการเลี้ยงที่ดีขึ้นทำให้ต้นทุนในภาพรวมลดลง ประกอบกับระดับราคาสุกรที่อยู่ในระดับที่สูงกว่าปีก่อน

ADVERTISMENT

สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี ในภาพรวมยังคงมีความท้าทายทั้งด้านเศรษฐกิจและความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ บริษัทจึงยังมีความระมัดระวังในการลงทุน พัฒนาด้านนวัตกรรมความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงเตรียมความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการค้าให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของผู้บริโภคที่จะเกิดขึ้น และยังคงมุ่งมั่นดำเนินการสู่เป้าหมาย Net-Zero ในปี 2050 อย่างเต็มที่

คณะกรรมการซีพีเอฟได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับครึ่งปีแรกปีนี้จำนวน 0.45 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 46 ของกำไรสุทธิงวดหกเดือนแรกของปี 2567 โดยมีกำหนด Record Date วันที่ 30 สิงหาคม (XD วันที่ 29 สิงหาคม) และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 13 กันยายน 2567 นี้

ADVERTISMENT

ซีพีเอฟเร่งเครื่อง 5 โครงการกำจัดปลาหมอคางดำ จับมือกรมประมงจัดลงแขกลงคลอง

ซีพีเอฟ ระดมทุกสรรพกำลังหนุนมาตรการกระทรวงเกษตร กำจัดปลาหมอคางดำจากระบบนิเวศอย่างต่อเนื่อง ผนึกโรงงานปลาป่นช่วยรับซื้อกว่า 600,000 กก. สนับสนุนกิจกรรมจับปลา และมอบปลานักล่าแก่กรมประมงใน 6 จังหวัดรวม 54,000 ตัว  ล่าสุด ซีพีเอฟลงพื้นที่สนับสนุนจังหวัดฉะเชิงเทราจัด “ลงแขก-ลงคลอง” ครั้งที่ 1 บริเวณคลองบางกระพ้อ อำเภอบางคล้า พร้อมกันนี้  ซีพีเอฟยังได้ต่อยอดสนับสนุนถังพลาสติกใช้แล้ว 200 ใบให้แก่สถานีพัฒนาที่ดินใช้บรรจุน้ำหมักชีวภาพอีกด้วย

นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ในฉะเชิงเทราพบปลาคางดำค่อนข้างมากใน อำเภอบางคล้า และอำเภอบางปะกง เพื่อป้องกันผลกระทบพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จังหวัดจึงจัดลงแขก-ลงคลองครั้งที่ 1 นำร่องจับปลาหมอคางดำในบริเวณคลองบางกระพ้อ

โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ชาวแปดริ้ว และตัวแทนภาคเอกชน ร่วมกันจับปลาออกจากระบบนิเวศได้ 80 กิโลกรัม  สำหรับปลาที่จับได้ในวันนี้ จังหวัดจะส่งมอบให้เรือนจำกลางนำไปใช้ปรุงอาหารเลี้ยงผู้ต้องขังต่อไป  ทั้งนี้ ฉะเชิงเทราและประมงจังหวัดพร้อมเดินหน้าเร่งจับปลาทุกสัปดาห์เพื่อให้ปลาหมดไปภายใน 3 เดือนตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

นายชลธี ยังตรง

ด้านนายอดิศร์ กฤษณวงศ์ ผู้บริหารสูงสุดสายงานรัฐกิจและเอกชนสัมพันธ์  ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟผนึกพลังในองค์กรร่วมสนับสนุนกรมประมงในการกำจัดปลาหมอคางดำมาแล้ว 6 จังหวัด และวันนี้มอบแห อวน อุปกรณ์จับปลาให้ประมงฉะเชิงเทราใช้ในการจัดกิจกรรมจับปลา

พร้อมทั้งสนับสนุนอาหารและน้ำดื่มให้กับผู้ร่วมงานลงแขก-ลงคลอง  นอกจากนี้ ซีพีเอฟได้รับการประสานงานว่าโครงการผลิตน้ำหมักชีวภาพขาดแคลนถังบรรจุ บริษัทจึงได้ต่อยอดนำถังพลาสติกที่ใช้แล้วขนาดบรรจุ 1,000 ลิตรจากโรงงานผลิตอาหารสัตว์ซีพีเอฟ จำนวน 200 ใบมอบให้สถานีพัฒนาที่ดินในจังหวัดต่างๆ ใช้ผลิตน้ำหมักชีวภาพเพื่อส่งให้การยางฯ ต่อไป

นอกจากนี้ ซีพีเอฟยังได้สนับสนุนนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ให้กรมพัฒนาที่ดิน การยางแห่งประเทศไทย และกรมประมงร่วมมือกันนำปลาหมอคางดำที่จับได้มาผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพเพื่อส่งต่อให้ชาวสวนยางพารา

โดยสนับสนุนถังพลาสติกใช้แล้วจากโรงงานผลิตอาหารสัตว์ซีพีเอฟขนาด 1,000 ลิตรจำนวน 200 ใบให้แก่สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดต่างๆ เพื่อนำไปใช้เป็นถังบรรจุน้ำหมักชีวภาพ โดยได้ส่งมอบถังพลาสติก 40 ใบแก่สถานีพัฒนาที่ดินฉะเชิงเทรา และสถานีพัฒนาที่ดินสมุทรปราการ และจะทยอยจัดส่งถังพลาสติกใช้แล้วไปให้สถานีพัฒนาที่ดินกรุงเทพมหานคร สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เพชรบุรี  สำนักงานการยางจังหวัดกาญจนบุรี และที่อื่นๆ ต่อไป

นายชลธี ยังตรง

การสนับสนุนกิจกรรมจับปลาหมอคางดำ และโครงการผลิตน้ำหมักชีวภาพเพื่อแจกให้เกษตรกรปลูกยางพารา เป็นความมุ่งมั่นของซีพีเอฟในการสนับสนุนกรมประมงเพื่อช่วยกำจัดปลาหมอคางดำอย่างจริงจัง โดยดำเนิน 5 โครงการ ประกอบด้วย การรับซื้อปลาหมอคางดำผลิตปลาป่นที่รับซื้อไปแล้วมากกว่า 600,000 กิโลกรัมโดยตั้งเป้ารับซื้อ 2,000,000 กิโลกรัม การสนับสนุนปลานักล่า 200,000 ตัว ให้ประมงจังหวัดต่างๆ ปล่อยลงแหล่งน้ำ โดยส่งมอบไปแล้ว 54,000 ตัว การสนับสนุนกรมประมงจับปลาออกจากระบบนิเวศ โครงการร่วมกับมหาวิทยาลัยพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร และสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญและมหาวิทยาลัยวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีการควบคุมปลาในระยะยาว

นายชลธี ยังตรง