เปิดอันดับมหา’ลัยโลกด้านความยั่งยืน จุฬาฯ รั้งที่ 1 ไทย ตามด้วยมหิดล

มหาวิทยาลัย-ปริญญา

ผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกด้านความยั่งยืน ประจำปี 2567 มีมหาวิทยาลัยเข้าร่วม 1,397 แห่ง มหาวิทยาลัยโทรอนโต จากแคนาดา ได้ที่ 1 ของโลก ขณะที่สิงคโปร์-ญี่ปุ่น อยู่อันดับต้น ๆ ของเอเชีย ส่วนไทยเข้าร่วม 13 แห่ง จุฬาฯ ยังคงรั้งอันดับ 1 ตามด้วยมหิดล ที่อันดับขึ้นสูงกว่าปีที่ผ่านมา

วันที่ 7 ธันวาคม 2566 คิวเอส ควัคควาเรลลี ซีมอนด์ส (QS Quacquarelli Symonds) ประกาศผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกด้านความยั่งยืน (QS World University Rankings: Sustainability) ประจำปี 2567 

การจัดอันดับครั้งนี้ครอบคลุมมหาวิทยาลัย 1,397 แห่ง มากกว่าปีที่แล้วซึ่งเป็นการจัดอันดับครั้งแรกถึงสองเท่า และเป็นการประเมินมหาวิทยาลัยโดยพิจารณาจากผลกระทบทางสังคม ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล 

ซึ่งผลปรากฏว่า มหาวิทยาลัยโทรอนโต ครองอันดับ 1 มหาวิทยาลัยที่มีความยั่งยืนมากที่สุดในโลก ตามด้วยมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ในอันดับ 2 และมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ในอันดับ 3

20 อันดับแรกมหาวิทยาลัยยั่งยืน 

  • อันดับที่ 1 มหาวิทยาลัยโทรอนโต (University of Toronto) แคนาดา
  • อันดับที่ 2 มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ (UC Berkeley) สหรัฐอเมริกา
  • อันดับที่ 3 มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ (The University of Manchester) สหราชอาณาจักร
  • อันดับที่ 4 มหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย (University of British Columbia) แคนาดา
  • อันดับที่ 5 มหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ (The University of Auckland) นิวซีแลนด์
  • อันดับที่ 6 อิมพีเรียลคอลเลจลอนดอน (Imperial College London) สหราชอาณาจักร
  • อันดับที่ 7 มหาวิทยาลัยซิดนีย์ (The University of Sydney) ออสเตรเลีย
  • อันดับที่ 8 มหาวิทยาลัยลุนด์ (Lund University) สวีเดน
  • อันดับที่ 9 มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น (The University of Melbourne) ออสเตรเลีย
  • อันดับที่ 10 มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น (Western University) แคนาดา
  • อันดับที่ 11 มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ (UNSW Sydney) ออสเตรเลีย
  • อันดับที่ 11 มหาวิทยาลัยอุปซอลา (Uppsala University) สวีเดน
  • อันดับที่ 13  มหาวิทยาลัยแมคกิลล์ (McGill University) แคนาดา
  • อันดับที่ 14 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเดลฟท์ (Delft University of Technology) เนเธอร์แลนด์
  • อันดับที่ 15 สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) สหรัฐอเมริกา
  • อันดับที่ 15 มหาวิทยาลัยเอดินเบอระ (The University of Edinburgh) สหราชอาณาจักร
  • อันดับที่ 17 มหาวิทยาลัยบริสตอล (University of Bristol) สหราชอาณาจักร
  • อันดับที่ 18 สถาบันเทคโนโลยีแห่งสหพันธ์สวิสในซูริก (ETH Zurich) สวิตเซอร์แลนด์
  • อันดับที่ 19 มหาวิทยาลัยเดอรัม (University of Durham) สหราชอาณาจักร
  • อันดับที่ 20 มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ (University of Glasgow) สหราชอาณาจักร

ทั้งนี้จะเห็นว่า มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ และมหาวิทยาลัยอุปซอลา ได้อันดับที่ 11 เท่ากัน ขณะที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ มหาวิทยาลัยเอดินเบอระ ก็ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 15 เช่นกัน 

นักศึกษาทั่วโลกใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น 

เจสสิกา เทอร์เนอร์ (Jessica Turner) ซีอีโอของคิวเอส ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดอันดับในฐานะเครื่องมือชี้วัดความพยายามของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในการจัดการกับความท้าทายที่สำคัญ พร้อมกับชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่นักศึกษาให้ความสำคัญมีการเปลี่ยนแปลง โดย 79% ให้ความสำคัญกับแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืนของสถานศึกษา และ 82% ศึกษาค้นคว้าแนวปฏิบัติเหล่านี้อย่างจริงจัง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านักศึกษาใส่ใจผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

สำหรับไฮไลต์การจัดอันดับในปีนี้คิวเอสระบุว่า แคนาดามีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อมศึกษา และมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบียครองอันดับสูงสุดของโลกในด้านความเท่าเทียม

สหรัฐอเมริกามีมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ เป็นผู้นำด้านผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ขณะที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) มหาวิทยาลัยมิชิแกน-แอนอาร์เบอร์ (University of Michigan-Ann Arbor) และมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University) มีความเป็นเลิศด้านโอกาสและความสามารถในการทำงาน ขณะที่สหราชอาณาจักรมีความโดดเด่นด้านธรรมาภิบาลและการแลกเปลี่ยนความรู้ โดยมีมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ และอิมพีเรียลคอลเลจลอนดอน ติด 10 อันดับแรก

สิงคโปร์-ญี่ปุ่น เบอร์ 1 ของเอเชีย 

มหาวิทยาลัยโตเกียว (University of Tokyo) อยู่ในอันดับ 22 ของโลก เป็นผู้นำของเอเชีย โดยรั้งอันดับ 3 ด้านผลกระทบทางสังคม และรั้งอันดับ 5 ด้านผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ส่วนมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore) รั้งอันดับ 1 ด้านการวิจัยสิ่งแวดล้อม

มหาวิทยาลัยฟูตัน (Fudan University) อันดับ 142 ของโลก และครองอันดับสูงสุดของจีน และมหาวิทยาลัยเดลี (University of Delhi) (อันดับ 220) ครองอันดับสูงสุดของอินเดีย มหาวิทยาลัยซิดนีย์ครองอันดับ 1 ของโลกด้านผลกระทบทางสังคม 

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ 1 ของไทย

สำหรับมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ปีนี้เข้าร่วมการจัดอันดับ 13 แห่ง จากปีแรกที่เข้าร่วมเพียง 7 แห่ง และจุฬาลงกรณ์ยังคงเป็นอันดับ 1 ในไทย (อันดับ 197 ของโลก) ตามด้วยมหาวิทยาลัยมหิดลที่ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 จากอันดับ 7 ในปีก่อน และขึ้นมาอยู่อันดับ 277 ของโลก จากอันดับ 500 ในปีที่ผ่านมา 

  • อันดับที่ 1 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อันดับ 197 ของโลก)
  • อันดับที่ 2 มหาวิทยาลัยมหิดล (อันดับ 277 ของโลก)
  • อันดับที่ 3 คือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (อันดับ 283 ของโลก)
  • อันดับที่ 4 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (อันดับ 361 ของโลก)
  • อันดับที่ 5 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (อันดับ 417 ของโลก)
  • อันดับที่ 6 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อันดับ 419 ของโลก)
  • อันดับที่ 7 มหาวิทยาลัยขอนแก่น (อันดับ 433 ของโลก)
  • อันดับที่ 8 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (อันดับ 502 ของโลก)
  • อันดับที่ 9 สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (อันดับ 781-790 ของโลก)
  • อันดับที่ 10 มหาวิทยาลัยนเรศวร (อันดับ 1101-1150 ของโลก)

อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้รับจัดอันดับอยู่ที่อันดับ 1201 โลก