เปิดผลจัดอันดับมหาวิทยาลัยด้านความยั่งยืน ปี 2566 ไทยติด 7 แห่ง

university มหาวิทยาลัย
ภาพจาก Pixabay
อัพเดตข้อมูลล่าสุด 28 ตุลาคม 2565 เวลา 14.29 น.

คิวเอส จัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกด้านความยั่งยืน ประจำปี 2566 พิจารณาจากการแก้ปัญหาสังคม สิ่งแวดล้อม ในเอเชีย ญี่ปุ่นติด Top 10 จุฬาฯ รั้งอันดับ 1 ในไทย

วันที่ 28 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คิวเอส ควัคควาเรลลี ซีมอนด์ส (QS Quacquarelli Symonds) เปิดเผยผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกด้านความยั่งยืน (QS World University Rankings: Sustainability) เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นกรอบการทำงานใหม่ในการประเมินว่ามหาวิทยาลัยต่าง ๆ ดำเนินการอย่างไรเพื่อจัดการกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่เร่งด่วนที่สุดในโลก

เจสสิกา เทอร์เนอร์ (Jessica Turner) ซีอีโอของคิวเอสกล่าวว่า คิวเอสต้องการให้นักศึกษาในอนาคตได้รับข้อมูลเชิงลึกที่เป็นอิสระ เกี่ยวกับการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยในการส่งเสริมความยั่งยืน รวมทั้งสนับสนุนมหาวิทยาลัยให้ติดตามความก้าวหน้าของตนเอง ในการดำเนินกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG: Environment, Social, และ Governance) พร้อมกับแสวงหาแนวทางรับมือกับความท้าทายระดับโลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ทั้งนี้ ได้มีการจัดอันดับจากมหาวิทยาลัย 700 แห่ง พิจารณาจากผลรวมของคะแนนในสองส่วน ดังนี้

  • ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (ประกอบด้วยปัจจัยชี้วัดสามประการ ได้แก่ สถาบันที่ยั่งยืน การศึกษาที่ยั่งยืน และการวิจัยที่ยั่งยืน)
  • ผลกระทบทางสังคม (ประกอบด้วยปัจจัยชี้วัดห้าประการ ได้แก่ ความเท่าเทียม การแลกเปลี่ยนความรู้ ผลกระทบของการศึกษา การจ้างงานและโอกาส และคุณภาพชีวิต)

อย่างไรก็ตาม จากผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ รั้งอันดับหนึ่งของโลก ตามมาด้วยมหาวิทยาลัยโทรอนโต และมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย ส่วนมหาวิทยาลัยเอดินเบอระ รั้งอันดับ 4 ของโลก และเบอร์หนึ่งในสหราชอาณาจักร ขณะที่มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์และมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ครองอันดับ 5 ร่วมกัน ตามมาด้วยมหาวิทยาลัยโตเกียวที่รั้งอันดับ 7 ของโลกและเบอร์หนึ่งของเอเชีย ส่วนมหาวิทยาลัยที่เหลือที่ติด 10 อันดับแรกคือ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย มหาวิทยาลัยเยล และมหาวิทยาลัยโอ๊กแลนด์  

ผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกด้านความยั่งยืนของ QS ประจำปี 2566 : 20 อันดับแรกมีดังต่อไปนี้ 

1.มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ (UC Berkeley) สหรัฐอเมริกา

2.มหาวิทยาลัยโทรอนโต (University of Toronto) แคนาดา

3.มหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย (University of British Columbia) แคนาดา

4.มหาวิทยาลัยเอดินเบอระ (The University of Edinburgh) สหราชอาณาจักร

5.มหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ (UNSW Sydney) ออสเตรเลีย

6.มหาวิทยาลัยซิดนีย์ (The University of Sydney) ออสเตรเลีย

7.มหาวิทยาลัยโตเกียว (The University of Tokyo) ญี่ปุ่น

8.มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย (University of Pennsylvania) สหรัฐอเมริกา

9.มหาวิทยาลัยเยล (Yale University) สหรัฐอเมริกา

10.มหาวิทยาลัยโอ๊กแลนด์ (The University of Auckland) นิวซีแลนด์

11.มหาวิทยาลัยอุปซอลา (Uppsala University) สวีเดน

12.มหาวิทยาลัยลุนด์ (Lund University) สวีเดน

13.มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ (University of Glasgow) สหราชอาณาจักร

14.มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส (University of California, Davis) สหรัฐอเมริกา

15.มหาวิทยาลัยอาร์ฮุส (Aarhus University) เดนมาร์ก

16.มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (University of Oxford) สหราชอาณาจักร

17.มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น (Western University) แคนาดา

18.มหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล (Newcastle University) สหราชอาณาจักร

19.มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (University of Cambridge) สหราชอาณาจักร

20.มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) สหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ QS เผยว่าจากผลการจัดอันดับโดยรวมทั้งหมด 700 แห่ง เผยให้เห็นว่า สหรัฐอเมริกาครองตารางด้วยจำนวนมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับมากที่สุด 135 แห่ง ตามมาด้วยสหราชอาณาจักร 67 แห่ง, เยอรมนี 39 แห่ง, จีนแผ่นดินใหญ่ 37 แห่ง, ออสเตรเลีย 33 แห่ง และอิตาลี 31 แห่ง

สองมหาวิทยาลัยจากสวีเดนครองอันดับสูงสุดในยุโรปภาคพื้นทวีป ได้แก่ มหาวิทยาลัยอุปซอลาและมหาวิทยาลัยลุนด์ ที่อันดับ 11 และ 12 ของโลก ส่วนเดนมาร์กรั้งที่สามของยุโรปภาคพื้นทวีป นั่นคือมหาวิทยาลัยอาร์ฮุส (อันดับ 15 ของโลก)

ในด้านการวิจัยที่ยั่งยืน มหาวิทยาลัยสี่แห่งจากสแกนดิเนเวียติดท็อป 5 ของโลก ขณะที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore) รั้งอันดับหนึ่งของโลก

มหาวิทยาลัยเซาเปาลู (Universidade de São Paulo) (อันดับ 34) ครองอันดับสูงสุดในละตินอเมริกา

มหาวิทยาลัยเคปทาวน์ (University of Cape Town) (อันดับ 132) ครองอันดับสูงสุดในแอฟริกา

มหาวิทยาลัยปักกิ่ง (Peking University) (อันดับ 118) ทำผลงานได้ดีที่สุดในจีน ส่วนมหาวิทยาลัยไอไอที บอมเบย์ (IIT Bombay) ทำผลงานได้ดีที่สุดในอินเดีย (281-300)

จุฬาฯ รั้งอันดับ 1 ในไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับในประเทศไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รั้งอันดับ 1 โดยรวมอยู่ระหว่าง 151-160, ตามด้วยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (301-320), มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (301-320), มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (341-360), มหาวิทยาลัยขอนแก่น (451-500), มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (451-500), มหาวิทยาลัยมหิดล (501-550)

อันดับมหาวิทยาลัยด้านความยั่งยืน