ผลสอบอาจารย์ซื้อผลงานวิจัยคืบหน้า ตรวจสอบแล้ว 74 ราย พบความผิดปกติ 14 รายใน 8 สถาบัน ลงโทษ ไล่ออกแล้ว 2 ราย อยู่ระหว่างการพิจารณาโทษ 3 ราย และอยู่ระหว่างการสอบวินัยร้ายแรง 9 ราย
วันที่ 24 มกราคม 2567 ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า หลังจากที่มีข่าวการทุจริตผลงานวิจัยของนักวิจัยไทยที่มีการซื้อผลงานวิจัยที่ไม่ใช่ของตนเองและนำไปตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติ ในช่วงปีที่ผ่านมา อว.และสถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ ได้ร่วมกันตรวจสอบและดำเนินการลงโทษผู้ที่พบว่ากระทำผิดจริง โดยได้ตรวจสอบข้อมูลผลงานวิจัยของนักวิจัยไทยที่มีข้อมูลการตีพิมพ์ผลงานที่ผิดสังเกต
โดยพิจารณาจากข้อมูล 4 ด้าน ได้แก่ 1.มีการตีพิมพ์บทความวิจัยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาสูงผิดปกติ 2.ผลงานวิจัยตีพิมพ์อยู่ในหลายสาขาและไม่ตรงกับสาขาที่เชี่ยวชาญ 3.ผู้แต่งร่วมในผลงานตีพิมพ์มาจากหลายสาขาและหลายประเทศ 4.ผู้แต่งร่วมผลงานตีพิมพ์มีความผิดปกติ เช่น ตีพิมพ์ในหลายสาขาวิชา
ศ.ดร.ศุภชัยกล่าวต่อว่า ในการดำเนินการที่ผ่านมา อว.ได้ส่งรายชื่อนักวิจัย 109 คนที่มีข้อผิดสังเกตทั้ง 4 ข้อ ใน 33 สถาบัน ให้แก่สถาบันต้นสังกัดเพื่อตรวจสอบ และ อว.ได้ติดตามผลการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งข้อมูลที่รายงานในเดือนมกราคม 2567 สถาบันอุดมศึกษาตรวจสอบแล้วเสร็จ 74 ราย ซึ่งแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ตรวจสอบแล้ว พบว่าไม่ผิดปกติ ไม่ได้ซื้อผลงานวิจัยจำนวน 60 ราย และพบความผิดปกติ 14 รายใน 8 สถาบัน ซึ่งใน 14 รายนี้ ได้ลงโทษไล่ออกแล้ว 2 ราย สอบวินัยร้ายแรงเสร็จแล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณาโทษ 3 ราย และอยู่ระหว่างการสอบวินัยร้ายแรง 9 ราย ส่วนที่เหลือยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ
“ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงในบางสถาบันจะล่าช้าอยู่บ้าง เพราะต้องการการพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้าน และต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกตรวจสอบด้วย อีกทั้งในกระบวนการตรวจสอบอาจต้องใช้ความชำนาญทางวิชาการของกรรมการตรวจสอบด้วย ทาง อว.ก็ได้ให้ความช่วยเหลือในการให้คำปรึกษาในด้านต่าง ๆ มีการจัดประชุมผู้ตรวจสอบของทุกสถาบันเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กระบวนการตรวจสอบร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินการต่อจากนี้ อว.จะยังติดตามการตรวจสอบของแต่ละสถาบันอย่างใกล้ชิด ซึ่งต้องขอความร่วมมือกับทุกสถาบันในการตรวจสอบอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม ขณะเดียวกัน อว.ยังดำเนินการตรวจสอบความผิดปกติของนักวิจัยอย่างต่อเนื่อง หากพบความผิดปกติก็จะประสานให้ทางสถาบันเร่งดำเนินการต่อไป”