อรสิริน รุกตลาด โรงเรียนนานาชาติ สัญชาติอังกฤษแห่งแรกในเชียงใหม่

“โรงเรียน” เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถต่อยอดได้ในระยะยาว อรสิริน ผู้ประกอบการท้องถิ่นที่เติบโตมากับธุรกิจอสังหาฯ ใช้ประโยชน์จากที่ดินและทราฟฟิกมาประยุกต์ในการพัฒนาเชิงพาณิชย์ สู่ Mill Hill International School Thailand โรงเรียนนานาชาติแห่งใหม่ในจังหวัดเชียงใหม่

จากผลประเมินภาวะเศรษฐกิจภาคเหนือไตรมาสที่ 4 ปี 2567 ธนาคารแห่งประเทศไทย ส่วนเศรษฐกิจการเงินภาค สำนักงานภาคเหนือ ระบุว่า เศรษฐกิจภาคเหนือมีการปรับดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น

ในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ของภาคเหนือนั้น มีการหดตัวน้อยลงจากไตรมาสก่อนเช่นกัน ตามการเร่งซื้อที่อยู่อาศัยต่ำกว่า 7 ล้านบาท ก่อนสิ้นสุดมาตรการสนับสนุนอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐปี 2567 ขณะที่อุปทานที่อยู่อาศัยก่อสร้างใหม่ลดลงในกลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบ

อรรคเดช อุดมศิริธำรง
อรรคเดช อุดมศิริธำรง

“อรรคเดช อุดมศิริธำรง” รองประธานเจ้าหน้าที่ ORN เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภาคเหนือ มีแนวโน้มฟื้นตัวค่อนข้างชัดเจน ตลาดที่ยังพอไปได้ คือ กลุ่มกำลังซื้อสูง บ้านราคาแพง แม้มาร์เก็ตไซซ์ไม่ใหญ่ แต่มีสัญญาณฟื้นตัวดี ทำให้เราเห็นทิศทางสัญญาณบวกของคนที่จะส่งลูกหลานมาเรียนที่เชียงใหม่

ชูนานาชาติไดรฟ์ ปี’68

“อรสิริน” เป็นผู้ประกอบการท้องถิ่นที่เติบโตมากับธุรกิจอสังหาฯ ถือครองที่ดินในเชียงใหม่มากกว่า 800 ไร่ และได้พัฒนามาแล้วเกินครึ่งของแลนด์แบงก์ ที่ผ่านมาได้มีการตั้งโจทย์ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ธุรกิจใหม่ต่อไปจะเป็นอะไร เพื่อสร้างการรับรู้รายได้ในระยะยาว ซึ่งบริษัทตัดสินใจจะลงทุนโรงเรียนนานาชาติเป็นไดรเวอร์หลักของปี 2568

เพราะเห็นเทรนด์การเติบโตและการตอบรับจากตลาดภาพรวมของโรงเรียนนานาชาติและอสังหาริมทรัพย์โดยรอบในบริเวณโรงเรียนต่าง ๆ ทำให้เห็นโอกาสที่อรสิรินจะก้าวต่อไปได้ โดยใช้ประโยชน์จากที่ดินและทราฟฟิกมาประยุกต์ในการพัฒนาเชิงพาณิชย์ จึงเป็นที่มาของ Mill Hill International School Thailand โรงเรียนนานาชาติแห่งใหม่ในจังหวัดเชียงใหม่

ADVERTISMENT

“ผู้ปกครองมีความนิยมที่จะซื้อบ้านบริเวณใกล้เคียงโรงเรียน เนื่องจากต้องการสร้างสภาพแวดล้อมชีวิตให้แก่ลูก เราตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดี”

จุดเด่นของ Mill Hill คือการพัฒนาการออกแบบ สร้างความแตกต่างในปีที่เข้าตลาด สร้างความรู้สึกน่าอยู่ เน้นสร้างโปรดักต์ที่ต้องว้าว การสู้ด้วยราคาอย่างเดียว ไม่มีแบรนด์ เป็นการเหนื่อยในระยะยาว

ADVERTISMENT

อรรคเดชอธิบายต่อว่า ธุรกิจโรงเรียนเป็นธุรกิจที่ไม่ได้มีภาษีนิติบุคคล ข้อดีคือสิ่งที่โรงเรียนต้องใช้จำนวนมาก คือ ที่ดิน ประจวบเหมาะกับการที่อรสิรินมีที่ดินอยู่แล้ว ในสมการของการสร้างโรงเรียนจึงไม่ได้ลงในส่วนของที่ดินไว้

ในส่วนของอสังหาฯโดยรอบ ที่ผ่านมาได้มีการขึ้นราคาบ้านมาเรื่อย ๆ ราว ๆ 3% 2 ครั้ง ปรากฏว่ายอดขายดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากลูกบ้านในโครงการเก่า ๆ ที่เคยปักป้ายขาย ตอนนี้ถอดป้ายออกและรีโนเวตบ้าน ด้วยความคาดหวังที่เมื่อมีโรงเรียนและนักเรียน ย่อมต้องมีบุคลากรทางการศึกษาเข้ามาพำนักอาศัยในละแวกรอบข้าง ก่อเกิดเป็นรายได้จากการเช่าที่อยู่อาศัยและมีการเติบโตขึ้นของราคาบ้าน

สิ่งที่ได้นอกเหนือจากมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น คือ อรสิรินมีที่ดินรอพัฒนา 400 ไร่ แบ่งพัฒนาโรงเรียน 40 ไร่ จะเหลือที่ดิน 360 ไร่ จากการพูดคุยกันภายใน ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นไร่ละ 1 ล้านบาท สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้น 360 ล้านบาทแล้ว

สำหรับการลงทุนในโรงเรียนนานาชาติ เบื้องต้นลงทุนไปแล้ว 200 กว่าล้าน ในเฟสแรกเป็นอาคารสำหรับ Nursery – Year 6 และ เฟส 2 จะสร้างเพิ่มเติมอีก 4 อาคาร จนถึงการศึกษา Year 13 คาดคืนทุนไม่เกิน 4-5 ปี หากรายได้คือจำนวนนักเรียนเป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้

กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ คนเชียงใหม่ หรือคนใกล้เคียงที่ต้องการโรงเรียนที่ดี มีคุณภาพการศึกษาที่ทัดเทียมในระดับสากล ในอีกส่วนหนึ่งคือกลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครองชาวจีนที่ต้องการให้บุตรหลานมาเรียนต่อที่ไทย อีกส่วนที่เหลือคือชาวอังกฤษหรือชาติอื่น ๆ

“การทำธุรกิจมันยาก การจะขายบ้านหรือคอนโดฯแบบปกติมันไม่ได้ง่าย เราจะเอาอะไรมาดึงดูดให้คนอยากซื้อบ้าน ซื้อคอนโดฯแถวนั้น ๆ จึงต้องใช้ธุรกิจที่ยังหอมหวนเข้ามาเป็นจุดดึงดูดและดูไปได้ไกล โรงเรียนนานาชาติคือคำตอบ”

อรรคเดชกล่าวเสริมว่า ทั่วโลกทุกวันนี้ คนมีลูกน้อย ดังนั้นจึงอยากทุ่มสุดตัวให้ลูก การศึกษาคือสิ่งที่พ่อแม่ให้ลูกได้มากที่สุด เพราะยิ่งการที่คนมีลูกน้อยจึงสามารถทุ่มให้ได้เต็มที่ และเมื่อเป็นเช่นนั้น ในอนาคตเมื่อมีทราฟฟิกเพิ่มมากขึ้น เมื่อมีคนเพิ่มมากยิ่งขึ้น คาดมี Community Mall ตามมาภายใน เหมือนการสร้างอาณาจักรครบครันโดยรอบ ต่อยอดธุรกิจไปอีกขั้น

สัญชาติอังกฤษแห่งแรกในเชียงใหม่

สำหรับความคืบหน้าของธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ Mill Hill International School Thailand โรงเรียนสัญชาติอังกฤษแห่งแรกในจังหวัดเชียงใหม่ มีเป้าหมายนำปรัชญาและคุณค่าตามมาตรฐานการศึกษาระดับโลก เข้ามาเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาการศึกษาที่มีคุณภาพในจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือ

ปัจจุบันการก่อสร้างเฟสแรกแล้วเสร็จ ประกอบด้วย อาคารอำนวยการ และอาคารเรียนชั้นปฐมวัย โดยอยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 4 อาคาร มีนักเรียนให้ความสนใจสมัครแล้วกว่า 130 ราย และอยู่ระหว่างการคัดเลือกคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์

โดยจะรองรับนักเรียนตั้งแต่อายุ 3-10 ปี มีกำหนดเปิดทำการในเดือนกันยายนปี พ.ศ. 2568 เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล-Year 6 ซึ่งจะสามารถเริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงไตรมาส 4/2568 เป็นต้นไป พร้อมแผนขยายไปยังระดับ Year 13 ในอนาคต ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ สร้างความมั่นคงของรายได้ในระยะยาว

รร.นานาชาติเชียงใหม่ ไฮป์สนั่น

ดร.ยุทธชัย ดำรงมณี ผู้อำนวยการ Mill Hill International School Thailand เปิดเผยว่า ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติในเชียงใหม่ได้รับความนิยมอย่างมาก ปัจจุบันมีโรงเรียนนานาชาติแล้ว 21 แห่ง ซึ่งภายในสิ้นปีจะเปิดเพิ่มอีก 5 แห่ง รวมไปถึง Mill Hill ด้วย

การลงทุนแบบ Bussiness Model ไม่ส่งผลดีต่อการศึกษา โรงเรียนเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่เหมือนคอนโดฯ บ้านเดี่ยว เพราะนักเรียนที่มาเรียนจะอยู่ยาวต่อไปอีก 13 ปี ตั้งแต่ Nursery-Year 13 ดังนั้น สถานศึกษาเป็นเรื่องสำคัญเพราะเป็นการ “สร้างคน”

การเปิดโรงเรียนนานาชาติครั้งนี้ อรสิรินต้องลบ Pain Point ปัญหาในไทยให้ได้เยอะที่สุด แม้ว่าเชียงใหม่มีโรงเรียนนานาชาติ 21 แห่ง แต่ไม่มีโรงเรียนใดเลยที่เป็นสายตรงจากอังกฤษ และอเมริกา มีเพียงหลักสูตรเท่านั้นที่ถูกนำเข้ามา แถมครูผู้สอนเป็นครูที่ขอผ่อนผัน

สำหรับครูผู้สอนของ Mill Hill ต้องเป็นครูสัญชาติอังกฤษ มีประสบการณ์การสอนในโรงเรียนอังกฤษ และมีวุฒิ Qualified Teacher Status (QTS) และการกำหนดอัตราสัดส่วนนักเรียนจีน 25% ต่อนักเรียนทั้งหมด จุดนี้จะสามารถใช้เป็นมาตรฐานของโรงเรียนนานาชาติในเชียงใหม่ได้

ดร.ยุทธชัยอธิบายเพิ่มเติมถึงหลักสูตรว่า การเรียนการสอนจะเน้นสร้างทักษะแห่งอนาคต ผ่านการเรียนรู้แบบ The 7 Cs ได้แก่ การสื่อสาร (Communication), การเชื่อมโยง (Collaboration), ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity), การคิดวิพากษ์ (Critical Thinking), สันติสุข (Clamness), ความเห็นอกเห็นใจ (Compassion) และความเป็นตัวของตัวเอง (Character)

โรงเรียนยั่งยืน

Mill Hill ไม่ลืมส่งเสริมชุมชนและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมตระหนักในการอนุรักษ์พลังงาน ด้วยการใช้แผงโซลาร์เซลล์เพื่อสร้างพลังงานหมุนเวียน ลดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง โดยการสนับสนุนใช้กระบอกน้ำ-ภาชนะที่ใช้ซ้ำได้ในทุก ๆ มื้ออาหาร ใช้อาหารท้องถิ่นเพื่อลดคาร์บอนฟุตพรินต์จากภาคขนส่ง และนำอาหารไปทำปุ๋ยหมักเพื่อให้ขยะอาหารเป็นศูนย์ อีกทั้งยังสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่เดิน-ปั่นจักรยานในบริเวณโรงเรียน

ตลอดจนจัดกิจกรรมเพื่อความยั่งยืน และประกาศเป็นวิทยาเขตสีเขียว สร้างพื้นที่การเรียนรู้กลางแจ้งเพื่อเชื่อมโยงนักเรียนกับธรรมชาติ เป็นต้น