สมศ.แนะ 4 ทักษะครูยุคใหม่ เก่งเทคโนโลยี-สร้างทักษะชีวิต

เพิ่งผ่านวันครูมาได้ไม่นาน และเหมือนทุก ๆ ปีที่คนไทยให้ความสำคัญกับวิชาชีพครู ซึ่งครูวันนี้อาจไม่เหมือนครูในอดีต เพราะครูต้องปรับตัวและก้าวทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน ด้วยการเปลี่ยนรูปแบบการสอนจากเดิมมาเป็นการสอนแบบพี่เลี้ยง พร้อมสร้างทักษะที่จำเป็นสำหรับครูยุคใหม่

ในฐานะที่ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. เป็นหน่วยงานประเมินคุณภาพการศึกษา จึงได้กำหนดแนวทางการประเมินคุณภาพในด้านครู เพื่อสะท้อนคุณภาพการจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องตามแผนให้อย่างเหมาะสมและในโอกาสวันครู สมศ.จึงสรุปทักษะที่จำเป็นสำหรับครูยุคใหม่

โดย “ขนิษฐา ตั้งวรสิทธิชัย” รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษากล่าวว่า ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้การค้นคว้าข้อมูลสามารถทำได้อย่างกว้างขวาง ไม่จำกัดแค่ในหนังสือเรียน

“ด้วยเหตุนี้ ครูในยุคปัจจุบันจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ หรือสอดรับกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการเรียนรู้ของผู้เรียน 4 ด้าน ดังนี้ 1.นำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ในการสอน เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับบรรยากาศในชั้นเรียน พร้อมส่งเสริมทักษะที่จำเป็นกับเด็กผ่านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทั้งแบบในห้องเรียนและนอกห้องเรียนด้วยพร้อมสร้างแรงจูงใจให้เด็กเกิดการใฝ่รู้ ใฝ่เรียน สืบค้นข้อมูลเพื่อหาคำตอบเพิ่มเติมด้วยตนเองได้”

2.กระตุ้นให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิด และกล้าแสดงความเห็นในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และสามารถปรับใช้ได้ในชีวิต พร้อมทั้งสร้างกระบวนการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ กระตุ้นให้เด็กคิดอย่างมีเหตุผล การสังเคราะห์สิ่งต่าง ๆ แล้วสร้างเป็นแนวคิดใหม่ ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเด็กในการเผชิญกับโลกแห่งความเป็นจริง

3.เปลี่ยนครูจากผู้สอนให้เป็นผู้ฟังเนื่องจากเด็กยุคใหม่เริ่มมีความคิดเห็น หรือแนวคิดที่ต่างออกไป ซึ่งครูจะต้องเปิดโอกาสให้นักเรียนได้มีโอกาสแบ่งปันเรื่องราว สิ่งที่ชอบทำ ชอบดู หรือประสบการณ์ที่พบเจอนอกห้องเรียน เพื่อเป็นการลดช่องว่างระหว่างผู้สอนและผู้เรียน ทำให้รู้จักตัวตนของเด็กมากขึ้น รวมทั้งเป็นช่องทางในการรับรู้ความชอบของผู้เรียนแต่ละคนได้อีกด้วย

4.สอนให้เด็กมีทักษะชีวิตให้สามารถปรับตัวเข้ากับสังคม และมีภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็งจากสังคมทั่วไป และสังคมออนไลน์ โดยการเชื่อมโยงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าไปในบทเรียนเพื่อให้เด็กได้เกิดการคิดต่อยอด และสามารถนำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้

“ขนิษฐา” กล่าวด้วยว่า การสอนทักษะการใช้ชีวิตถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าทุกวันนี้ ครูหลาย ๆ ท่านยังมุ่งแต่เพียงการสอนในตำราเรียนเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ครูยังต้องมีทัศนคติเชิงบวกกับเด็กทุก ๆ คน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กรู้จักที่จะพัฒนาตนเอง

“การให้เด็กส่วนใหญ่วนอยู่กับการท่องจำเนื้อหาหนัก ๆ การทำการบ้าน การติวเข้ม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ผิดแต่อย่างใด หากแต่จะต้องเพิ่มสาระในด้านการใช้ชีวิต เพื่อให้เด็กรู้จักปรับตัว หรือรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในสังคมที่เปลี่ยนแปลงเข้าไปด้วย ในบางวิชาเรียนครูอาจจะต้องสอดแทรกเหตุการณ์สมมุติที่มักเกิดขึ้นบ่อย ๆ เพื่อให้เด็กรู้จักแก้ปัญหา มากกว่าการท่องจำทฤษฎีที่มีอยู่ในแบบเรียน เช่น การคิดวิเคราะห์ง่าย ๆ จากข่าวสารที่ฟัง หรือเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันสอดแทรกในวิชาสังคม การวิเคราะห์ภาษาระหว่างการใช้ในชีวิตจริงกับการใช้ในโลกออนไลน์ในวิชาภาษาไทย”

สมศ.ยังมีความประสงค์ให้ครูมีการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด และเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณภาพ เกิดการเรียนรู้ครบถ้วนตามมาตรฐานคุณภาพที่ระบุไว้ในหลักสูตร และตรงตามความมุ่งหวังของสังคม