หุ้นไทยปรับตัวขึ้น 1,625-1,650 จุด แรงหนุน “คนละครึ่ง-ฟันด์โฟลว์”

หุ้น หุ้นไทย

“ฟิลลิป” ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นในกรอบ 1,625-1,650 จุด แรงหนุนคนละครึ่งดันกลุ่มค้าปลีกช่วงสั้น นโยบาย BOI เสริมความน่าสนใจกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมและยานยนต์ ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมาดีดตัวขึ้นทะลุ 90 เหรียญ ฟันด์โฟลว์ไหลเข้าต่อเนื่อง

วันที่ 19 สิงหาคม 2565 บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ว่า ดัชนี SET index ปรับตัวขึ้นในกรอบ 1,625-1,650 จุด โดยมองปัจจัยหนุนวันนี้มาจาก 1.โครงการคนละครึ่งที่หนุนภาพบวกในกลุ่มค้าปลีก 2.ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่กลับมาดีดตัวขึ้นทะลุ 90 เหรียญต่อบาร์เรลอีกครั้ง 3.นโยบายสนับสนุนการลงทุนของ BOI ที่เข้ามาเสริมความน่าสนใจในหุ้นนิคมอุตสาหกรรมและยานยนต์ 4.แรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่ซื้อสุทธิในหุ้นไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

กลยุทธ์การลงทุน แนะลงทุนในหุ้น 1.หุ้นรับประโยชน์จาก BOI เช่น WHA AMATA, AH, SAT, STANLY, GPSC, EA, BPP 2.ค้าปลีก เช่น BJC, MAKRO 3.เก็งกำไรสั้น ๆ ในกลุ่มพลังงาน เช่น PTTEP, SPRC, TOP 4.ท่องเที่ยวเปิดเมือง เช่น CENTEL, ERW, MINT

สำหรับวันนี้จะเปิดให้มีการลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 5 ในวงเงิน 800 บาท และยังคงเงื่อนไขเดิมที่จะใช้สิทธิได้เพียงวันละ 150 บาทเท่านั้น โดยมีกำหนดต้องใช้สิทธิครั้งแรกภายในวันที่ 14 ก.ย. หรือราวสองอาทิตย์หลังวันแรกที่ให้เริ่มใช้สิทธิ (1 ก.ย. 65) จึงมองมีแนวโน้มที่จะหนุน Sentiment บวกให้กับหุ้นค้าปลีกในช่วงสั้น ๆ ให้กลับมาน่าสนใจ

ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นทะลุระดับ 90 เหรียญ หลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ออกมาลดลง 7.056 ล้านบาร์เรล ขณะที่ตลาดคาดจะลดลงเพียง 0.275 ล้านบาร์เรล สะท้อนอุปสงค์ในพลังงานที่ยังคงดี กลับมาหนุนหุ้นพลังงานบ้านเราในช่วงสั้น ๆ

ขณะที่ BOI อนุมัติแผนการสนับสนุนการลงทุนใหม่ใน 4 กิจการ ได้แก่ 1.กิจการผลิตเครื่องจักรที่มีความแม่นยำสูง ผลิตอุปกรณ์ ชิ้นส่วน และการซ่อมแซม 2.กิจการซ่อมแซมเครื่องจักรที่มีความแม่นยำสูง 3.กิจการผลิตชิ้นส่วนโลหะด้วยเครื่องพิมพ์สามมิติ 4.กิจการผลิตใช้ไมโครเทคโนโลยีในการผลิต เพื่อจูงใจให้เกิดการ
ลงทุนและรองรับต่อการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี

นอกจากนี้ยังอนุมัติโครงการลงทุนขนาดใหญ่เพิ่มเติมในส่วนของรถ EV จากบริษัท BYD ในจีน มูลค่ากว่า 17,891 ล้านบาท ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องในส่วนของนิคมอุตสาหกรรม และรถยนต์ รวมถึงชิ้นส่วนรถยนต์กลับมาน่าสนใจ


ประเด็นที่น่าติดตามต่อคือ 1.งาน Thailand Focus ที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า (24-26 ส.ค.) 2.การประชุมที่ Jackson Hole (25-27 ส.ค.) 3.ตัวเลขนำเข้าส่งออกไทย 4.ตัวเลข PCE และ Core PCE ของสหรัฐ 4.วันนี้ลุ้น ศบค.พิจารณาขยายเวลาวีซ่านักท่องเที่ยวสูงสุด 45 วัน