MFC เตรียมเปิดขายกองทุนตราสารหนี้สหรัฐ ไอพีโอ 6-14 ก.พ.นี้

กองทุนตราสารหนี้
ภาพจาก PIXABAY

บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด หรือ MFC เตรียมเสนอขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ยูเอส แอกกริเกท บอนด์ ฟันด์ หรือ MUBOND ลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพสูงในประเทศสหรัฐ ในจังหวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว (IPO) 6-14 ก.พ. 2566       

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี กล่าวถึงโอกาสการลงทุนในกองทุน MUBOND ว่า ในสภาวะที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวและเกิดปัญหาอุปทานตึงตัวที่เริ่มผ่อนคลาย สิ่งที่ตามมา คือ

เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง การลงทุนใน US High Quality Fixed Income หรือ ตราสารหนี้สหรัฐที่มีคุณภาพสูง ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เนื่องจากมีคุณภาพเครดิตสูง และให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจ

กรรมการผู้จัดการกล่าวว่า “ในเดือนธันวาคมปี 2565 ที่ผ่านมา มีสัญญาณของอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงอยู่ที่ +6.5% เทียบปีก่อนหน้า (YOY) ซึ่งมีโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังนั้น ตลาดตราสารหนี้จะมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการคัดเลือกหลักทรัพย์แบบ Bottom-Up และสอดคล้องกับทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐมากกว่า

นอกจากนี้ บลจ.เอ็มเอฟซียังมองว่า โอกาสได้ Upside หากเศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย ซึ่งจะทำให้ Bond Yield ลดลง และ High Quality Bond มีราคาสูงขึ้นอีกด้วย”

กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ยูเอส แอกกริเกท บอนด์ ฟันด์ หรือ MUBOND เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภท Feeder Fund มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ JPMorgan Funds-US Aggregate Bond Fund

ซึ่งมีนโยบายกระจายการลงทุนในตราสารหนี้สหรัฐ 4 กลุ่มย่อยที่มีคุณภาพ ได้แก่ US Core, Agency MBS, Securitized Credit และ Corporate Credit ที่มีคุณภาพสูงด้วยเครดิตเรตติ้งเฉลี่ย AA (ณ ธันวาคม 2565) ซึ่งทำให้กองทุนมีความเสี่ยงเครดิตต่ำ บริหารจัดการโดย JP Morgan Asset Management บริษัทจัดการลงทุนระดับโลกที่มีประสบการณ์ยาวนาน โดยกองทุน MUBOND มีความเสี่ยงอยู่ในระดับ 4

ทั้งนี้ กองทุนรวมมีการแบ่งชนิดหน่วยลงทุนเป็น 2 ชนิด ดังนี้ 1) ชนิดจ่ายเงินปันผล (MUBOND-D) สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่ต้องการรับผลตอบแทนจากเงินปันผล และ 2) ชนิดสะสมมูลค่า (MUBOND-A) สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่ต้องการรับรายได้จากส่วนต่างการลงทุน ซึ่งกองทุนจะนำผลประโยชน์จากการลงทุนไปลงทุนต่อ โดยผู้ลงทุนสามารถซื้อขั้นต่ำครั้งแรกและครั้งถัดไปเพียง 1,000 บาท

MFC