เปิดโผหุ้นเด่นรับอานิสงส์บวก “ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค-เราเที่ยวด้วยกัน”

นักท่องเที่ยว

เปิดโผหุ้นเด่นรับอานิสงส์บวก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ. 66 นิวไฮ และโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน”

 

วันที่ 10 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ. 2566 ออกมาแตะ 52.6 จุด เพิ่มขึ้นต่อจากเดือน ม.ค. 2566 ที่ 51.7 จุด โดยเป็นการยืนเหนือระดับ 50 จุด ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 36 เดือนนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2563

เปิดโผหุ้นเด่น ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคนิวไฮ

ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) รายงานว่า ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ออกมาล่าสุดนั้นถือว่ายังคงสอดคล้องกับภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ขานรับการเปิดเมืองเปิดประเทศ บวกกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยที่มีมากขึ้นต่อเนื่อง

โดยเรายังมองบวกหุ้นกลุ่มค้าปลีก, ห้างสรรพสินค้า, หุ้นร้านอาหาร, เครื่องดื่ม, อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคาดได้อานิสงส์บวก แนะนำ CPALL, CRC, CENTEL, ICHI, SPA, BRI, LH, ORI

3 เซ็กเตอร์เด่น “เราเที่ยวด้วยกัน”

ขณะที่ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ได้จัดทำรายงานเปิดโพย 3 เซ็กเตอร์หุ้นที่มีความโดดเด่นรับโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ประกอบด้วย

กลุ่มสายการบิน

แนะนำ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) โดยให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อยู่ที่ 80 บาท คาดมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) อยู่ที่ 0.58% โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) จะเทิร์นอะราวนด์

กลุ่มค้าปลีก

แนะนำ 3 บริษัทคือ 1.บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) ให้ราคาเป้าหมายสิ้นปีนี้อยู่ที่ 55 บาท คาดมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) อยู่ที่ 1.38% โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) อยู่ประมาณ 29%

2.บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ให้ราคาเป้าหมายสิ้นปีนี้อยู่ที่ 72 บาท คาดมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) อยู่ที่ 1.67% โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ประมาณ 40%

และ 3.บมจ.คาราบาวกรุ๊ป (CBG) ให้ราคาเป้าหมายสิ้นปีนี้อยู่ที่ 111 บาท คาดมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) อยู่ที่ 2.13% โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ประมาณ 43%

กลุ่มโรงแรม

แนะนำอีก 3 บริษัทคือ 1.บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) ให้ราคาเป้าหมายสิ้นปีนี้อยู่ที่ 5.7 บาท คาดมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) อยู่ที่ 0% โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) จะเทิร์นอะราวนด์

2.บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ให้ราคาเป้าหมายสิ้นปีนี้อยู่ที่ 38 บาท คาดมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) อยู่ที่ 0% โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ประมาณ 14%

และ 3.บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) ให้ราคาเป้าหมายสิ้นปีนี้อยู่ที่ 54 บาท คาดมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) อยู่ที่ 0.80% โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ประมาณกว่า 285%