ประกันภัยนาข้าวปี 2566 สะดุด เกษตรกรเคว้งตั้งรัฐบาลใหม่อนุมัติไม่ทัน

ประกันภัยนาข้าว

เกษตรกรเคว้ง ! ประกันภัยข้าวนาปี 2566 ส่อล้ม ตั้งรัฐบาลใหม่อนุมัติไม่ทัน “นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย” รับโครงการส่อสะดุด แม้ผ่าน นบข.ไปแล้ว แต่อยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการ

แนะบริษัทประกันขายกรมธรรม์ “ภาคสมัครใจ” ไปก่อน เล็งปีต่อไปเสนอรัฐบาลชุดใหม่ใช้แนวทางให้ “เกษตรกรร่วมจ่าย” ขณะที่เปิดข้อมูลสมาคมประกันวินาศภัยไทย ตั้งแต่ปี 2554-2565 มูลค่าความเสียหายเคลมประกันนาข้าวกว่า 14,562 ล้าน

แหล่งข่าวจากธุรกิจประกันวินาศภัย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ได้เห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2566 พื้นที่รับประกันภัยพื้นฐาน (tier 1) จำนวน 21.5 ล้านไร่ และการรับประกันภัยโดยภาคสมัครใจ (tier 2) ไม่เกิน 5 แสนไร่ รวมทั้งหมด 22 ล้านไร่ ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 1,647 ล้านบาท

แต่เนื่องจากรัฐบาลยุบสภา ทำให้ไม่สามารถเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ จึงไม่แน่ใจว่าปีนี้ รัฐบาลจะเดินหน้าโครงการนี้หรือไม่

“เรื่องยังอยู่ที่สำนักงบประมาณ ถ้าจะทำก็ต้องเสนอเข้า ครม. เพื่ออนุมัติจัดสรรงบประมาณวาระพิเศษ โดยต้องขอความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งหากรัฐบาลสามารถอนุมัติงบประมาณได้ทันก่อนสิ้นเดือน พ.ค. 2566 โครงการประกันภัยข้าวนาปี ก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้ แต่ถ้าไม่ทันคงจะล้ม เพราะการขายกรมธรรม์นาข้าว สำหรับพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ 58 จังหวัด จะไม่เกินวันที่ 31 พ.ค. 2566

ทั้งนี้ ตอนนี้ภาคธุรกิจประกันทำอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายของรัฐบาล ดังนั้นดูแล้วคาดว่าโครงการนี้น่าจะสะดุด” แหล่งข่าวกล่าว

นายสมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย (TIP) ในฐานะนายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ต้องยอมรับว่าโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2566 อาจสะดุด เพราะยังไม่ผ่าน ครม. โดยเรื่องยังอยู่ที่สำนักงบประมาณ

นอกจากนี้ โครงการที่ นบข. เห็นชอบไปแล้วนั้น มีการอนุมัติงบประมาณออกมาค่อนข้างน้อย ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นใหม่สำหรับปีต่อ ๆ ไปที่อาจจะต้องให้เกษตรกรเข้ามามีส่วนร่วมจ่าย (co-payment) เองด้วย

“จริง ๆ แล้ว ช่วงนี้ ผมแนะนำให้บริษัทประกันขายกรมธรรม์นาข้าวไปก่อนตามเงื่อนไขเดิม เพราะจริง ๆ แล้วอาจจะมีประชาชนบางคนที่สนใจจะซื้อก็ได้ เป็นลักษณะแบบภาคสมัครใจ” นายสมพรกล่าว

สมพร สืบถวิลกุล
สมพร สืบถวิลกุล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2566 มีอัตราค่าเบี้ยประกันแยกเป็น tier 1 แบ่งเป็น 4 อัตรา คือ 1.เกษตรกรลูกค้าสินเชื่อเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปีของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 115 บาทต่อไร่ เท่ากันในทุกพื้นที่

2.เกษตรกรทั่วไปในพื้นที่นำร่อง 70 บาทต่อไร่ 3.เกษตรกรทั่วไปในพื้นที่เสี่ยงปานกลาง 199 บาทต่อไร่ และ 4.เกษตรกรทั่วไปในพื้นที่เสี่ยงสูง 218 บาทต่อไร่

ส่วน tier 2 แบ่งเป็น 3 อัตรา (เกษตรกรจ่ายเอง) คือ 1.พื้นที่เสี่ยงต่ำ 27 บาทต่อไร่ 2.พื้นที่เสี่ยงปานกลาง 60 บาทต่อไร่ และ 3.พื้นที่เสี่ยงสูง 110 บาทต่อไร่

โดยวงเงินคุ้มครองแยกเป็นวงเงินคุ้มครองภัยธรรมชาติทั้งหมด 7 ภัย สำหรับ tier 1 มีวงเงินความคุ้มครอง 1,190 บาทต่อไร่ และ tier 2 มีวงเงินความคุ้มครอง 240 บาทต่อไร่ รวมวงเงินความคุ้มครองจำนวน 1,430 บาทต่อไร่

และวงเงินคุ้มครองภัยศัตรูพืชและโรคระบาด tier 1 มีวงเงินความคุ้มครอง 595 บาทต่อไร่ และ tier 2 มีวงเงินความคุ้มครอง 120 บาทต่อไร่ รวมวงเงินความคุ้มครองจำนวน 715 บาทต่อไร่

ขณะที่การอุดหนุนค่าเบี้ยประกันของรัฐบาล ธ.ก.ส. จะอุดหนุนค่าเบี้ย 46 บาทต่อไร่ สำหรับเกษตรกรลูกค้าสินเชื่อที่ขึ้นทะเบียนเพาะปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2566 จำกัดพื้นที่สูงสุดไม่เกิน 30 ไร่ต่อราย และรัฐบาลอุดหนุน 78.12 บาทต่อไร่

ส่วนเกษตรกรทั่วไปในพื้นที่นำร่อง ค่าเบี้ย 70 บาทต่อไร่ เกษตรกรจ่าย 5 บาทต่อไร่ รัฐบาลอุดหนุน 70.97 บาทต่อไร่ และเกษตรกรทั่วไปในพื้นที่เสี่ยงปานกลาง ค่าเบี้ย 199 บาทต่อไร่ เกษตรกรจ่าย 130 บาทต่อไร่ รัฐบาลอุดหนุน 84 บาทต่อไร่ และเกษตรกรทั่วไปในพื้นที่เสี่ยงสูง ค่าเบี้ย 218 บาทต่อไร่ เกษตรกรจ่าย 149 บาทต่อไร่ รัฐบาลอุดหนุน 85.33 บาทต่อไร่

ด้านภาพรวมโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2565 ตามข้อมูลสมาคมประกันวินาศภัยไทย พบว่า พื้นที่รับประกันนาข้าวรวมทั้งหมด 24.23 ล้านไร่ คิดเป็นเบี้ย 2,428 ล้านบาท มีการเคลมไปทั้งหมด 1.48 ล้านไร่ มูลค่าความเสียหาย 1,705 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนความเสียหาย (loss ratio) อยู่ที่ 70.63%

และนับตั้งแต่ปี 2554-2565 มีพื้นที่ทำประกันรวม 202.65 ล้านไร่ เบี้ยประกันรวม 18,559 ล้านบาท มีพื้นที่เคลมทั้งหมด 12.76 ล้านไร่ มูลค่าความเสียหาย 14,562 ล้านบาท คิดเป็นอัตราความเสียหาย (loss ratio) เฉลี่ยอยู่ที่ 78.52%