ส่องทิศทางหุ้นท่องเที่ยว เมื่อคนจีนมาไทยพลิกเป็นบวกครั้งแรก

หุ้นไทย
Photo : pexels

ส่องทิศทางหุ้นท่องเที่ยว เมื่อนักท่องเที่ยวจีนมาไทยพลิกเป็นบวกครั้งแรก หลังจากลดลงติดต่อกันมา 4 สัปดาห์ จากเกิดเหตุที่พารากอน บล.เอเซีย พลัส คงมุมมองบวกต่อการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยช่วงไตรมาส 4 ปีนี้จนถึงไตรมาส 1 ปีหน้า อานิสงส์ไฮซีซั่น-มาตรการสนับสนุนของรัฐ-สัญญาณบวกจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 นายภาสกร หวังวิวัฒน์เจริญ นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อเช้าวันนี้กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยสัปดาห์ที่ 1 ของเดือน พ.ย. 2566 (วันที่ 30 ต.ค.-5 พ.ย. 2566) อยู่ที่ 5.6 แสนคน เพิ่ม 10% เทียบจากสัปดาห์ก่อนหน้า (WOW)

หนุนด้วยการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวยุโรปราว 29% WOW ประกอบกับนักท่องเที่ยวจีนมาไทยพลิกเป็นบวกครั้งแรกราว 14% WOW หลังจากลดลงติดต่อกันมา 4 สัปดาห์ หลังจากเกิดเหตุที่พารากอนเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2566

ฝ่ายวิจัยคงมุมมองบวกต่อการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยช่วงไตรมาส 4/2566 จนถึงไตรมาส 1/2567 หลังเดือน ต.ค. 2566 ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยเบื้องต้นตามคาดที่ 2.2 ล้านคน +2.8% เทียบจากเดือนก่อนหน้า (MOM) และ +49% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) ประกอบกับภาพการขยายตัวช่วงสัปดาห์แรกของเดือน พ.ย. ข้างต้น ซึ่งคาดมีโมเมนตัมต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี

Advertisment

อานิสงส์จาก High Season ของท่องเที่ยวไทยและมาตรการสนับสนุนภาคท่องเที่ยวของรัฐบาล รวมถึงสัญญาณบวกจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยเดือน พ.ย. 2566 ที่ 2.4 ล้านคน +10% (MOM) และ 2.8 ล้านคน +15% (MOM)

ขณะที่แนวโน้มกำไรปกติกลุ่มไตรมาส 4/2566 เติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า (QOQ) จากทั้ง AOT, CENTEL, ERW และ MINT เพราะการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวไทย, มัลดีฟส์ (CENTEL และ MINT), ญี่ปุ่น (CENTEL) และยุโรป (MINT) รวมถึงธุรกิจร้านอาหาร (CENTEL และ MINT) เข้าสู่ฤดูกาลเฉลิมฉลอง

สำหรับคำแนะนำหุ้นในกลุ่ม โรงแรมไทยชอบ ERW (Outperform ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 6.70 บาท) มากกว่า CENTEL (Neutral ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 54 บาท) จากการฟื้นตัวของ REVPAR เกินพรีโควิดในอัตราสูงกว่าและแผนการขยายโรงแรมกลุ่ม BUDGET HOTEL ที่มีมาร์จิ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ย ทั้งในไทยและต่างประเทศ

ส่วนหุ้นใหญ่อย่าง AOT (Outperform ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 85 บาท) และ MINT (Outperform ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 38 บาท) ราคาหุ้นนับตั้งแต่มีกระแสเปิดประเทศตั้งแต่สิ้นปี 2564 ยังปรับขึ้นช้ากว่า 2 บริษัทข้างต้น ในขณะที่คาดกำไรมีโมเมนตัมเติบโต QOQ งวดไตรมาส 4/2566

Advertisment